ยอดส่งออกอัญมณี-ทองคำทะลุ 24% เร่งนำเข้าหนีภาษีตอบโต้

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า จากการที่สหรัฐฯยังคงเลื่อนบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้คู่ค้าทั่วโลกออกไป 90 วันสิ้นสุดวันที่ 8 ก.ค.68 ทำให้ทั่วโลกเร่งนำเข้าสินค้า ประกอบกับ ราคาทองคำในตลาดโลก ยังคงอยู่ในระดับสูงนั้น ส่งผลให้ในเดือนพ.ค.68 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทองคำ มูลค่าสูงถึง 1,753.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24.51% เทียบเดือนพ.ค.67 หากไม่รวมทองคำ มูลค่า 846 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 2.41% ขยายตัวต่อเนื่อง 7 ขณะที่ช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปี 68 มูลค่าส่งออกรวมทองคำ 12,116.49 ล้านเหรียญฯ เพิ่มมากถึง 91.60% เทียบช่วงเดียวกันของปี 67 และไม่รวมทองคำ 6,647.31 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 72.59%

    ทั้งนี้ การส่งออกเฉพาะทองคำในเดือน พ.ค.68 มีมูลค่า 907.67 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 55.87% จากการส่งออกไปเก็งกำไร แต่ราคาทองคำชะลอตัวลง หลังขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในเดือน เม.ย.68 ส่วนยอดรวมส่งออกทองคำ 5 เดือน 5,468.89 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 121.20% และแยกเป็นรายเดือน พบว่า เดือนม.ค. มูลค่า 1,167.87 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 148.95%, เดือนก.พ. 933.63 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 26.395%, เดือนมี.ค. 1,447.95 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 269.55%, เดือนเม.ย. 1,011.76 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 250.52%

    “เดือนพ.ค.ตลาดสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดหลัก ที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึง 12.15% จากการเร่งนำเข้า เพื่อลดความเสี่ยงจากมาตรการภาษี ส่วนฮ่องกง เพิ่ม 7.23%, เยอรมนี เพิ่ม 9.87%, สหราชอาณาจักร เพิ่ม 32.93%, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่ม 21.67%, อิตาลี เพิ่ม 2.20%, ญี่ปุ่น เพิ่ม 30.01% เป็นต้น ส่วนแนวโน้มการส่งออกเดือน มิ.ย.68 คาดว่า หลายตลาดจะยังคงขยายตัวได้ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในช่วงชะลอขึ้นภาษี แต่มูลค่าอาจโตไม่มาก เพราะเร่งนำเข้าก่อนหน้านี้แล้ว”

    อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาเศรษฐกิจโลก ที่ล่าสุดธนาคารโลกประเมินว่าจะขยายตัวเพียง 2.3% ในปี 68 ลดจากเดิม 2.7% ต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 51 เพราะความขัดแย้งระหว่างประเทศ สงครามการค้า การปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ จีน และยุโรป ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการค้ากลุ่มอัญมณี โดยจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

    ดังนั้น ส่งออกควรปรับกลยุทธ์เป็นแนวทางผสมผสาน เน้นการตลาดหน้าร้านและการสร้างพันธมิตรกับผู้ค้าปลีก รวมทั้งเพิ่มช่องทางการตลาดผ่านออนไลน์ โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นกลยุทธ์ สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับอินฟลูเอนเซอร์ และการเริ่มใช้ Pinterest เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการเข้าชมเว็บไซต์ โดยไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายโฆษณาสูง