ดันร่าง 3 พ.ร.บ. การเงินเข้าสภา หวังดันไทยศูนย์กลางทางการเงินภูมิภาค

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลเตรียมที่จะผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง รวม 3 ฉบับ เข้าสู่ที่ประชุมสภาในเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ 1.) ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อให้ กอช.สามารถออกหวยเกษียณได้ เพื่อดึงดูดให้คนมาออมในกอช.มากขึ้น คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาภายในกลางเดือน ก.ค.นี้

2.) ร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค (Financial Hub) เพื่อดึงดูดนักลงทุนและผู้ประกอบธุรกิจการเงินจากต่างประเทศ และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมเสริมทักษะด้านการเงินให้กับบุคลากรในประเทศ ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายฉบับนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาเสร็จแล้ว และคาดว่าจะเสนอให้ครม.ยืนยันในวันที่ 8 ก.ค.นี้ และหลังจากครม.ยืนยันแล้ว ก็จะเสนอให้สภาต่อไป

และ 3.) ร่างพ.ร.บ. สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. … เพื่อก่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ หรือ National Credit Guarantee Agency (NaCGA หรือนากก้า) เตรียมที่จะเข้า ครม.ภายในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น โดยมีนากก้าเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อ และช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้กับสถาบันการเงิน

“ขณะนี้ร่างกฎหมายอยู่ในกระบวนการ ทุกคนต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยต้องทำงานต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อ เพราะว่าตอนนี้ประเทศมีปัญหาที่ต้องแก้ไขหลายด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ ปัญหาชายแดน ดังนั้นทุกกระทรวงเดินหน้าต่อทำงานต่อ”

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถาบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นั้น ได้ผ่านความเห็นชอบครม.แล้ว และรอเข้าสู่ที่ประชุมสภา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการเลื่อนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่นั้น ต้องอยู่ที่การพิจารณารายละเอียด

“ตอนนี้ทุกอย่างยังเดินไป ไม่มีอะไรเปลี่ยน ทุกอย่างที่อยู่ในกำหนดการ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามผลักดันให้ออกมากที่สุด ไม่มีอะไรชะลอ อย่างที่เห็นกฎหมายสามสี่ฉบับก็กำลังเข้าสู่สภา ทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะบ้านเมืองก็มีภาระรับผิดชอบต่าง ๆ มีเรื่องที่ต้องเข้าไปแก้ไข ทุกคนหยุดไม่ได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินต่อไปได้ทั้งด้านเศรษฐกิจและปัญหาชายแดน”