กกร.วอน ธปท. ลดดอกเบี้ย มองเศรษฐกิจครึ่งปีหลังอ่อนแรงเผชิญบาทแข็ง

นายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร. ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ มีแนวโน้มอ่อนแรงลง คาดว่าตลอดทั้งปี ขยายตัวในระดับต่ำราว 1.5-2.0% โดยจะเติบโตใกล้เคียง 2.0% หากอัตราภาษีที่ประเทศไทยโดนเรียกเก็บจากสหรัฐฯ ยังอยู่ที่ 10% ในครึ่งปีหลัง แต่จะลดลงมาใกล้ 1.5% หากโดนเรียกเก็บที่ 18% หรือครึ่งหนึ่งของอัตรามาตรการภาษีนำเข้าแบบตอบโต้สหรัฐฯ และไม่เห็นด้วยกับการประเมินทิศทางเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ถึง 2.3% เนื่องจากครึ่งปีหลัง ยังคงเผชิญความไม่แน่นอนสูง

“กกร. ขอให้ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เร่งดูแลทิศทางของค่าเงินให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจ แยกแยะและลดผลกระทบจากปัจจัยอื่นที่กระทบค่าเงินบาท เช่น การซื้อขายทองคำ การเกินดุลการชำระเงิน จาก Error & Omission ที่สูงอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แตะ 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแข็งค่ามากกว่าประเทศในภูมิภาค เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน และค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบเท่าปี 2540 ทำให้ธุรกิจแข่งขันไม่ได้ ซึ่งการแข็งค่าไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวอย่างมาก ภาวะการเงินที่ตึงตัวสินเชื่อไม่เติบโต และทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในภาวะ Inverted Yield Curve หรือการที่ตลาดคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะลดลงในระยะข้างหน้า”

ดังนั้น กกร. จึงมีแนวทางที่จะขอเข้าพบ ธปท. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงแนวทางในการมองเศรษฐกิจในแต่ละภาคส่วน รวมถึงการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาคการเงินและภาคอุตสาหกรรมในการร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อชี้เป้าอุตสาหกรรมและจัดลำดับความสำคัญ