เศรษฐกิจไทยคาดการณ์ยาก “กอบศักดิ์” ประเมินปีนี้เสี่ยงโตต่ำ 1.5% แนะรัฐเร่งดีลสหรัฐฯ-ดันท่องเที่ยว

Economics

Thai Economics

ชญานิษฐ์ เชื้อกสิการ (โฟม)

ชญานิษฐ์ เชื้อกสิการ (โฟม)

Tag

เศรษฐกิจไทยคาดการณ์ยาก “กอบศักดิ์” ประเมินปีนี้เสี่ยงโตต่ำ 1.5% แนะรัฐเร่งดีลสหรัฐฯ-ดันท่องเที่ยว

Date Time: 1 ก.ค. 2568 17:21 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

เศรษฐกิจไทยปี 2568 กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่! จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะเติบโต 3% แต่ล่าสุด “ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล” มองเศรษฐกิจไทยน่ากังวล พร้อมปรับลดประมาณการ GDP ลงเหลือ 2% และอาจต่ำสุดถึง 1.5% หากสถานการณ์เลวร้ายลง แนะรัฐเร่งแก้ปมการเมือง ดีลภาษีสหรัฐฯ อัดฉีดท่องเที่ยว

Latest


ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกผันผวนและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เศรษฐกิจไทยเองก็เผชิญกับความท้าทายไม่แพ้กัน จากเดิมที่ธนาคารกรุงเทพเคยประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 2568 ไว้ที่ 3% 

ล่าสุด ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 พร้อมกับปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ลงเหลือ 2% แบบมี Downside ท่ามกลางความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเติบโตได้ต่ำกว่านั้น 

โดยในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจเห็น GDP ไทย ขยายตัวได้เพียง 1.5% เท่านั้น ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ GDP อยู่ที่ 2.3% ซึ่งถือเป็นการปรับลดประมาณการที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก 

“เดิมที ธนาคารกรุงเทพ เคยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเติบโตได้ถึง 3% โดยมีปัจจัยหนุนจากภาคการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนโดยตรง และมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วง 2-3 เดือนแรกของปี สถานการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ธนาคารต้อง ปรับลดประมาณการลง” ดร.กอบศักดิ์ กล่าว

พร้อมกับให้เหตุผลว่า เนื่องจากมีแรงต้านเยอะทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหว สถานการณ์การส่งออกที่เคยคิดว่าจะดี โลกที่คิดว่าจะฟื้นไม่เหมือนที่คิดไว้ แม้ว่าต้นปีจะมีแนวโน้มสดใส จากความเร่งซื้อของคู่ค้าที่กังวลเรื่องนโยบายภาษีของทรัมป์ในช่วงปลายปี ทำให้คนอเมริกาสต็อกสินค้าของคู่ค้าสูง และส่งผลให้ส่งออกอาจชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากยังไม่มีใครรู้ว่านโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร ทำให้การคาดการณ์ทำได้ยาก แต่หากสินค้าไทยได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาษีต่อสินค้าจีน ก็อาจมีโอกาสพลิกฟื้นได้บ้างในช่วงปลายปี

ทั้งนี้ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเคยคาดว่าจะฟื้นตัวโดดเด่น แต่เหตุการณ์ความรุนแรงและจากเหตุการณ์ของ ซิง ซิง ดาราจีนที่หายตัวไปจากชายแดนไทยทางตะวันตก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ทำให้นักท่องเที่ยวทัวร์กรุ๊ปจากจีนลดลงอย่างมาก แต่ตลาดยุโรปและนักท่องเที่ยวครอบครัวยังคงมาอยู่บ้าง ทำให้ภาพรวมยังน่ากังวลใจ เพราะการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอาจไม่เป็นไปตามที่คาด 

ด้าน ปัญหาการเมืองในประเทศ ดร.กอบศักดิ์ มองว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลให้การขับเคลื่อนนโยบายจากภาครัฐไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ทำให้แรงส่งจากภาครัฐลดลง ย้ำว่าในสถานการณ์เช่นนี้ การประมาณการเศรษฐกิจที่แม่นยำจึงเป็นเรื่องยาก เพราะต้องคาดเดาผลลัพธ์ทางการเมือง ซึ่งไม่สามารถทำได้

ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศ ตัวเลขยอดขายจากร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า รวมถึงยอดรูดบัตรเครดิตที่ลดลง และการปิดตัวของร้านอาหารหรือโรงงานบางแห่ง สะท้อนถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด

คำแนะนำสำหรับเศรษฐกิจไทยและโอกาสข้างหน้า

ดร.กอบศักดิ์ ยังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยมีความน่ากังวล แต่ไม่ถึงกับถอดใจ โดยมีคำแนะนำดังนี้

1.เน้นพยุงธุรกิจและลูกค้า ช่วยเหลือให้ลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้และปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ฃ

2.เร่งรัดการลงทุนโดยตรง มีนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากที่สนใจมาลงทุนในประเทศไทย รัฐบาลควรเร่งรัดกระบวนการและมอบสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ

3.ส่งเสริมการท่องเที่ยว อัดฉีดเงินให้ ททท. ทำโปรโมชั่นที่ดี เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับมาให้ได้โดยเร็ว โดยเฉพาะจากตลาดที่มีศักยภาพอย่างอินเดีย ซึ่งมีการเดินทางเพิ่มขึ้น

4.หาตลาดส่งออกใหม่ ร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โลกมีความไม่แน่นอนสูงและคู่ค้าเดิมอาจมีปัญหา

5.ดึงดูดชาวต่างชาติ เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยและลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจในสถานการณ์โลกที่ไม่สงบ และภูมิภาคอาเซียนมีความน่าสนใจมากขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทั่วโลก

ดร.กอบศักดิ์ ทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพที่จะไปต่อได้ในปีนี้ โดยเป้าหมายคือการประคับประคองและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ พร้อมยืนยันว่า ธนาคารกรุงเทพ ยังคงเป็น "เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน" ที่จะช่วยเหลือลูกค้าในทุกสถานการณ์

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney