กระทุ้งทีมไทยแลนด์เร่งจบเจรจาสหรัฐ หวั่นไม่ทันฤดูรับคำสั่งซื้อปลายปี

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อสร้างสมดุลการค้าระหว่าง 2 ฝ่ายว่า ผู้ส่งออกไทยเห็นสัญญาณการสั่งซื้อสินค้าไทยชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. 68 ต่อเนื่องจนถึงเดือนมิ.ย.และเดือนก.ค. 68 ประกอบกับข้อจำกัดของเวลาในการเจรจาและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลรับคำสั่งซื้อปลายปี จึงต้องการให้คณะเจรจาของไทยเร่งดำเนินงานโดยเร็ว เพื่อให้ภาคธุรกิจเตรียมตัวและปรับแผนได้ทันท่วงที รวมถึงขอให้ทีมเจรจาทำงานอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อยอดการส่งออกช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังติดตามสถานการณ์การค้าการลงทุนของไทยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด แม้จะเป็นประเด็นที่มีมิติทางความมั่นคงและอธิปไตย ซึ่งอยู่เหนือประเด็นเศรษฐกิจ โดยขอยืนยันจุดยืนสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลและกองทัพไทยในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ

“กรณีที่กัมพูชาห้ามนำเข้าสินค้าไทยบางประเภท โดยเฉพาะผลไม้นั้น ยังมีแนวทางบริหารจัดการสินค้าเหล่านี้ให้กระจายไปยังตลาดอื่นได้ เช่น หอการค้าไทยได้ร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำกระจายผัก ผลไม้ จากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคในประเทศ, หารือกับหอการค้าจังหวัดต่างๆ และหน่วยงานราชการท้องถิ่น ผลักดันขายสินค้าอุปโภคและบริโภคในประเทศแทนการส่งออกไปกัมพูชา ยืนยันจะร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อให้ประเทศผ่านพ้นสถานการณ์ท้าทายต่าง ๆ และเดินหน้าอย่างมั่นคงต่อไป”

ด้านนายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า หลังจากไทยปิดด่านชายแดนกัมพูชาเพิ่มเติม ทำให้การค้าขายของประชาชนทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะที่ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนของ 2 ประเทศที่ใหญ่ที่สุด เงียบเหงามาก ผู้ค้าส่วนใหญ่หยุดค้าขาย เพราะคนกัมพูชาข้ามฝั่งมาซื้อของจากไทยไม่ได้ และคนไทยข้ามไปขายของฝั่งกัมพูชาไม่ได้ สถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องและยาวนาน ประชาชนอดอยากแน่นอน เพราะทั้งหมดเป็นผู้ค้ารายย่อย สายป่านสั้น ต่างจากผู้ส่งออกขนาดใหญ่ สายป่านยาวกว่ามาก

“ผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายต้องรีบแก้ปัญหา อย่าให้ยืดเยื้อ ต้องรีบเจรจาให้จบ ไม่อยากให้เกิดการสู้รบ หรืออพยพประชาชน เพราะผมเห็นการอพยพมาตลอดชีวิต ไม่มีอะไรดีเลย มีแต่ความสูญเสีย ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายลำบาก อยากวอนให้นักการเมือง เร่งแก้ปัญหา อย่ามัวแต่เจรจาเอาตำแหน่งรัฐมนตรี จนไม่แก้ปัญหาประชาชนเลย”

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 มิ.ย. 68 นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการและความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงได้สั่งการให้ปลัด ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับพาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างใกล้ชิด ทั้งที่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด หากพบสินค้าขาดแคลน มีการกักตุน หรือราคาสูงให้ช่วยเหลือทันที รวมทั้งดูแลการค้าขายในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด

“ได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการลงพื้นที่ชายแดน และเร่งระบายสินค้าเกษตร ทั้งผัก ผลไม้ ที่เข้าสู่กัมพูชาไม่ได้ ไปยังตลาดในประเทศให้มากที่สุด โดยเฉพาะผลไม้จากภาคตะวันออก ที่ตั้งเป้าระบาย 3,000 ตัน ผ่านความร่วมมือทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ โมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้าต่างๆ บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 เป็นต้น”