“วิทัย” ชี้ลดดอกเบี้ยช่วยดันจีดีพีโต เปิดมุมมองแคนดิเดตผู้ว่าฯ ธปท.ชงแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“วิทัย” ชี้ลดดอกเบี้ยช่วยดันจีดีพีโต เปิดมุมมองแคนดิเดตผู้ว่าฯ ธปท.ชงแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ

Date Time: 23 มิ.ย. 2568 11:00 น.

Summary

“วิทัย รัตนากร” 1 ใน 6 แคนดิเดตผู้ว่าฯ ธปท. เปิดมุมมองฟื้นฟูเศรษฐกิจดันจีดีพีโต ลดดอกเบี้ยนโยบายให้ต่ำ ลดเงินต้น-ดอกเบี้ยธุรกิจ-ครัวเรือน ควบคู่แพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน เมื่อเศรษฐกิจโต จะแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน-การกระจายรายได้ได้ดีขึ้น

Latest

“นมโค-มะพร้าวน้ำหอม” ล้นตลาด!“จตุพร” ออก 3 มาตรการเชิงรุก หวังดึงราคา-เร่งระบายสินค้า

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 1 ใน 6 รายชื่อผู้สมัครคัดเลือกเก้าอี้ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยว่า ขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะซึม ดังนั้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโต ต้องทำงานควบคู่กันอย่างใกล้ชิด ทั้งมาตรการการเงิน มาตรการทางการคลัง และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนคนไทยกินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืน


“ธปท.มีบทบาทสำคัญมากต่อการกำหนดนโยบายการเงิน เพื่อส่งต่อไปถึงระบบเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจซึมยาว ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เติบโตต่ำ เงินเฟ้อต่ำมายาวนาน จึงเกิดคำถามเศรษฐกิจมหภาค ภาคการเงินมีเสถียรภาพมาก แต่เศรษฐกิจจุลภาค หรือครัวเรือน ธุรกิจ ขยายตัวต่ำ รายได้ของคนไม่ปรับสูงขึ้น และเต็มไปด้วยปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ปัญหาหนี้ครัวเรือน ความยากจน และปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่”


ทั้งนี้ที่ผ่านมา ธปท. ดูแลเรื่องเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค ถือประสบความสำเร็จมาก คุมอัตราเงินเฟ้อเพราะสถาบันการเงินแข็งแรงมาก มีกำไรมาก แต่ในปีนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยซบเซา และมีแนวโน้มที่จะซึมยาวต่อเนื่อง เนื่องจากเผชิญปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง และประเทศเพื่อนบ้าน ภาษีทรัมป์ นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ไม่เป็นไปตามหมาย 35 ล้านคน เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ เป็นต้น


ดังนั้นต้องเร่งเครื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้เติบโต และเมื่อเศรษฐกิจเติบโต ประชาชนจะมีรายได้ ภาพรวมเศรษฐกิจจะทยอยดีขึ้น นำไปสู่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น หนี้ครัวเรือน การกระจายรายได้ได้ดีขึ้น และที่สุดจะทำให้ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นจริงให้ได้


นายวิทัย กล่าวต่อว่า สำหรับแนวคิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย คือ การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ต่ำสุด ๆ เพื่อนำไปสู่การลดดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงินแบบทันที หรือทยอยลดลงในอัตราที่มากพอสมควร ทำให้ยอดหนี้ของประชาชนลดลงด้วย รวมถึงช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายกับดอกเบี้ยเงินกู้ ต้องห่างกันไม่มากหรือแคบลงกว่าปัจจุบัน เพื่อดูแลเศรษฐกิจฐานราก ทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน


“ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยขาดความสมดุล สถาบันการเงินแข็งแรงมาก มีกำไร ขณะที่ภาคธุรกิจมีหนี้สิน ปิดกิจการ ยอดหนี้ครัวเรือนสูง คนยากจน มีความเหลื่อมล้ำสูง โดยส่วนตัวคิดว่าภาวะลักษณะนี้ไม่ใช่ภาวะปกติ และยังมีหลายปัจจัยรุมเร้ามาก ดังนั้นการลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีหลากหลายมาตรการมาเสริมลักษณะเป็นแพ็กเกจ และต้องทำอย่างต่อเนื่องด้วย”


ส่วนกรณีสถาบันการเงิน มีความกังวลการปล่อยสินเชื่อ ภาครัฐต้องเร่งสร้างเครดิตการันตี หรือการค้ำประกันสินเชื่อ ต้องขยายกลุ่มการค้ำประกันสินเชื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ รวมถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอน-แบงก์) และการช่วยลดต้นทุนของธนาคาร เชื่อว่าจะปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้ เพราะขณะนี้มีคนต้องการกู้เงิน แต่ธนาคารไม่ปล่อยกู้ ดังนั้นต้องแก้ปัญหานี้


ทั้งนี้กรณีการไม่ปล่อยสินเชื่อเข้าระบบของธนาคารพาณิชย์ รวมถึงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ช้า หลังจากมีการลดดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว และธนาคารพาณิชย์กำไรสูงมาก ประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นคำถามของสังคมว่า เพราะเหตุใดถึงไม่ลดดอกเบี้ยโดยเร็ว และทำไมกำไรถึงสูงเป็นประวัติการณ์ อาจเป็นเพราะไม่มีการแข่งขันในระบบธนาคาร หรือแข่งขันน้อยไปหรือไม่ หากมีการเพิ่มจำนวนธนาคารสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งมีหลายวิธีที่จะดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ