
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีมติปรับลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน สำหรับน้ำมันดีเซลลงอีก 70 สตางค์ (สต.) ต่อลิตร เพื่อช่วยพยุงราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการ ไม่ให้ปรับขึ้นราคา ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. เป็นต้นไป ส่งผลให้น้ำมันดีเซลธรรมดา จากเดิมจัดเก็บที่ 1 บาทต่อลิตร เหลือเพียง 30 สต.ต่อลิตร น้ำมันดีเซลธรรมดาเกรดพรีเมี่ยม จากเดิมจัดเก็บที่ 2.50 บาทต่อลิตร ปรับลดเหลือ 1.80 บาทต่อลิตร
สำหรับมติดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นมาอยู่ที่ 75.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 93.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 87.49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วยหากไม่ปรับลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน
“การลดอัตราเงินเข้ากองทุนน้ำมันครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ ส่งผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันจากน้ำมันดีเซลลดลงวันละ 43.50 ล้านบาท จากเดิมที่มีรายรับวันละ 62.97 ล้านบาท เหลือรายรับวันละ 19.47 ล้านบาท ขณะที่รายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซิน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และอยู่ที่ประมาณวันละ 72.88 ล้านบาทเท่าเดิม”
นายพรชัย กล่าวว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวสะท้อนถึงความพร้อมของกองทุนน้ำมันในการบริหารจัดการและดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันให้กับประชาชน โดยใช้กลไกการจัดเก็บของอัตราเงินกองทุนน้ำมันเข้ามาช่วยพยุงราคาน้ำมันให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562