สัญญานอันตรายแข่งขันไทยดิ่ง

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (ทีเอ็มเอ) ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง “โอกาส ความหวัง และอนาคตของประเทศไทย” โดยวิเคราะห์เจาะลึก ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยปี 68 หลังสถาบันการจัดอันดับ International Institute for Management Development : IMD จากสวิตเซอร์แลนด์ ได้ประกาศ ผลการจัดอันดับประเทศไทยปรับลดลง 5 อันดับมาอยู่ที่ 30 โดย นายนิธิ ภัทรโชค ประธานสมาคมทีเอ็มเอ กล่าวว่า ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลง สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทย อ่อนแอลง จาก 6 ปัจจัย อาทิ1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โตต่ำ รองอันดับสุดท้ายในกลุ่มประเทศอาเซียน 2. ไม่มีการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ (New-S curve) มีเพียงแผนเท่านั้น มาเป็นเวลา 10 ปี 

   3. การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ลดลงต่อเนื่อง อาทิ การลงทุนโดยตรง 5 ล้านเหรียญฯ สหรัฐฯ และการลงทุนในตลาดทุน-เงิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีความเสี่ยงที่รออยู่คือ ภาษีทรัมป์ หากไม่มีความชัดเจน เชื่อว่าการลงทุน จะลดลงมากกว่านี้ 4. ความเหลื่อมล้ำสูงมาก ดัชนีความยากจนของไทยเพิ่มสูงต่อเนื่อง 5. ปัญหาคอร์รัปชัน

   “ประเทศไทยมีโอกาสที่เศรษฐกิจจะฟื้น การจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ จะดีขึ้น หากลงมือปฏิบัติจริงจังและเร่งแก้ปัญหา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เพื่อสร้างการเติบโตให้ประเทศ ภาครัฐและเอกชน ต้องเร่งปรับตัว พัฒนาตัวเอง ขับเคลื่อน วาระสำคัญของประเทศ ทุกอย่างของไทย เป็นแผนที่ไม่ลงมือทำจริง หากลงมือทำ เชื่อว่าประเทศไทยมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง และอันดับขีดความสามารถต้องขยับขึ้น แต่ถ้าไม่ลงมือทำจริงๆ อันดับขีดความสามารถจะลดลงเรื่อยๆ"

   นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัญญาณอันตรายดังขึ้นเรื่อยๆ เศรษฐกิจไทยไม่มีการเติบโต ย่ำอยู่กับที่ ปัญหาต่างๆ เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยพึ่งพาการส่งออก และการท่องเที่ยว ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ หากไม่ปรับเปลี่ยน การจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของไทยจะลดลงเรื่อยๆ