“สุริยะ”สั่งสอบหาคนรับผิดชอบ คาใจทำรัฐต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มโดยไม่จำเป็น

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติปรับกรอบวงเงินลงทุนและจัดหาแหล่งเงินเพิ่มเติมเพื่อรองรับโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วง ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต ในสัญญา1, สัญญา 2 และสัญญา 3 เพิ่มอีก 7,581.12 ล้านบาท เป็น 104,449.45 ล้านบาท จากเดิม 96,868.3 ล้านบาท โดยที่ประชุมให้กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินเพื่อจ่ายค่างานเพิ่มเติม หรือ VO.ในสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างงานโยธาสถานีกลางบางซื่อและดอกเบี้ยให้กับกลุ่มกิจการร่วมค้าเอส ยู ที่มีกลุ่มบริษัท ยูนิค เอนจิเนียริ่ง จำกัดและ บริษัท ชิโนไท เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น 7,140.99 ล้านบาท แบ่งเป็นค่า VO 5,015.30 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับเอกชนที่ก่อสร้าง 2,078.624 ล้านบาท ให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)รับผิดชอบ

“ทั้งนี้ มองว่า การทำงานระหว่างรัฐกับเอกชนในสัญญาที่ดำเนินการร่วมกัน ทำไมหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานเกี่ยวข้องถึงได้ปล่อยให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น ทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ จึงได้เตรียมสั่งการให้กระทรวงคมนาคมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหาสาเหตุว่า กรณีที่มีค่างานเพิ่มเติม หรือ VO.เกิดขึ้น รวมถึ กรณีที่มีดอกเบี้ยสูง ทำไมถึงปล่อยปละละเลยให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยไม่ยอมจัดการ หรือ เจรจากับเอกชน”

สำหรับข้อพิพาท โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน สัญญาที่ 1 นั้นสิ้นสุดแล้ว โดยศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ รฟท. ชำระเงินให้ กิจการร่วมค้าเอส ยู ที่มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญา โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ตามคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน (VO) 4,204.28 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 27.65 ล้านบาท