ตลาดสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อที่อยู่อาศัยเผชิญความท้าทาย คนไทยแบกรับหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้กำลังซื้อน้อยลง และคนนิยมเลือกบ้านมือสองมากขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย CIMBT เปิดแผนรุกตลาดสินเชื่อบ้าน พร้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่รวมทั้งหมด 2.8 หมื่นล้านบาท
ธนวรรณ เจียระนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เผยว่า ปัจจุบันตลาดสินเชื่อติดลบเกือบ 6% และเติบโตช้า ไม่ใช่เพราะผู้คนไม่ต้องการพึ่งพาสินเชื่อ แต่คนไทยมีหนี้ครัวเรือนมากกว่า 89% ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่ตัวเลขหนี้ในระบบเท่านั้น ยังไม่รวมหนี้นอกระบบที่ยังไม่ได้ถูกนับรวมเข้าไปอีก
นอกจากนี้ ธนาคารยังพยายามหาวิธีช่วยให้คนไทยกู้เงินนอกระบบน้อยลง โดยลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น และใช้การดูแลพอร์ตรวมถึงควบคุม NPL หรือหนี้เสีย ให้อยู่ในระดับคงที่
ปัจจุบันสินเชื่อบุคคลของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เติบโตมากขึ้นถึง 9.1% จากปีที่แล้ว แต่ตลาดสินเชื่อก็ยังหดตัวเพราะคนไทยกำลังแบกรับหนี้ครัวเรือนและมีกำลังกู้สินเชื่อน้อย เพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจ
นับตั้งแต่ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และปัญหาด้านเศรษฐกิจที่คนไทยมีหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างชะลอตัว ตัวเลขเพียงแค่ 0.1% เนื่องจากอุปทานล้นตลาดและยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลง
แต่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กลับมีสินเชื่อบ้านเติบโตมากขึ้นกว่า 4.9% ในไตรมาสแรกของปี 2568 เพราะทางธนาคารมีตัวเลือกที่หลากหลายให้กับผู้กู้สินเชื่อ เช่น สินเชื่อบ้านใหม่ รีไฟแนนซ์ บ้านแลกเงิน รวมถึงบ้านมือสอง เนื่องจากปัจจุบันคนไทยนิยมซื้อบ้านมือสองมากขึ้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในยุคที่เศรษฐกิจเติบโตช้า
ธนาคารจึงมีผลิตภัณฑ์การเงินที่ไม่ได้รองรับเพียงสินเชื่อบ้านใหม่ราคาแพง แต่ยังมีบ้านมือสองเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความสนใจมากกว่า ดังนั้น การชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จึงไม่ส่งผลกระทบกับการเติบโตของธนาคารมากนัก
นอกจากนี้ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ตั้งเป้าหมายเป็นธนาคารที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้มีบ้าน ซึ่งจะพิจารณาสินเชื่อให้กับผู้ที่ทำงานอย่างน้อย 4-5 เดือน แม้ว่าจะไม่มีเครดิตบูโร ซึ่งในปี 2568 นี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 2.8 หมื่นล้านบาท
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้มีการย้ำเตือนถึงสัญญาณหนี้เสียของคนไทยที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงด้านเครดิตในระดับสูง โดยยอดค้างสินเชื่อ NPL ในไตรมาสแรกของปี 2568 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 548,100 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.90% โดยมาจากสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ทำให้หลายธนาคารได้รับผลกระทบจากหนี้เสียเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม ธนวรรณ กล่าวว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จาก 70% ของลูกค้าคือกลุ่มคนที่มีฐานเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ซึ่งนับว่าเป็นฐานที่สูงและมีความมั่นคง อีกทั้งธนาคารยังมี NPL อยู่ที่ 3.52% อย่างไรก็ตาม ยังจับตาเฝ้าระวังกลุ่มสินเชื่อบ้านที่ราคาต่ำกว่า 5 ล้านต่อไป เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอน
ปัจจุบัน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีพอร์ตสินเชื่อบ้านราว 125,000 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะโตสุดที่ 135,000 ล้านบาท แต่ตลาดสินเชื่อยังคงซบเซาเพราะหลายคนมองว่าการกู้สินเชื่อทำได้ยากเกินไปโดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ ที่ถอนใจในการมีบ้าน เพราะฟังดูเหมือนเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ตลาดอสังหาฯ และการกู้สินเชื่อเติบโตช้าลง
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้