เร่งปิดดีลเอฟทีเอ “ไทย-อียู” “พิชัย” ถกกรรมาธิการยุโรปลุ้นเคลียร์จบปีนี้

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เร่งปิดดีลเอฟทีเอ “ไทย-อียู” “พิชัย” ถกกรรมาธิการยุโรปลุ้นเคลียร์จบปีนี้

Date Time: 6 มิ.ย. 2568 07:30 น.

Summary

"พิชัย" รมว.พาณิชย์ ถกกรรมาธิการยุโรปด้านการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เร่งปิดดีล FTA ไทย- EU หวังสรุปผลได้ภายในปีนี้ ชี้ช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน เหตุ EU เป็นคู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น

Latest

มิลเลนเนียมฉลอง 25 ปีลุย BMW i7

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 68 ในช่วงการประชุมองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระดับรัฐมนตรี ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตนได้พบหารือกับนายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและความโปร่งใส เพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (EU) และผลักดันให้สรุปผลได้ภายในปีนี้ ตามเป้าหมาย


ทั้งนี้ ล่าสุด การเจรจามีความคืบหน้าที่ดี สามารถสรุปการเจรจาได้แล้ว 4 บท ได้แก่ ความโปร่งใส, แนวปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบ, พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า และระบบอาหารที่ยั่งยืน โดยไทยพร้อมทำงานร่วมกับ EU อย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันให้บทที่เหลือได้ข้อสรุปที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว


“ผมได้ย้ำกับฝ่าย EU ว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการเจรจากับ EU เนื่องจาก EU เป็นพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญของไทย และมั่นใจว่า FTA ฉบับนี้ จะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และลดผลกระทบจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบัน”


นายพิชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้เป็นช่วงสำคัญของการเจรจา เพราะเริ่มเข้าสู่การหารือเรื่องการเปิดตลาดแล้ว และจะมีการประชุมรอบที่ 6 ระหว่างวันที่ 23-27 มิ.ย. 68 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งหวังว่าจะมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจยิ่งขึ้น โดยตนได้กำชับกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งเจรจาให้ข้อสรุปได้ภายในปีนี้ เพื่อขยายโอกาสและสร้างแต้มต่อทางการค้า ผลักดันการส่งออก ดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศ และเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของไทยให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศต่างๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายในประเด็นใหม่ๆ ทางการค้า


นอกจากนี้ ตนยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA กับภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ สำหรับ EU เป็นคู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย (รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น) ในปี 67 มีมูลค่าการค้าประมาณ 43,533 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 7.17% ของการค้าไทยในตลาดโลก


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ