อธิบาย GDP Growth เศรษฐกิจโตเกิน 3% ต่อเนื่อง จริงหรือแค่ "มายา"ทางสถิติ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อธิบาย GDP Growth เศรษฐกิจโตเกิน 3% ต่อเนื่อง จริงหรือแค่ "มายา"ทางสถิติ

Date Time: 21 พ.ค. 2568 09:50 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

เบื้องหลังตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่เราต้องรู้ ! “GDP” โต 3% ต่อเนื่อง 3 ไตรมาส จริงหรือแค่ "มายา" ทางสถิติ ชวนทำความเข้าใจ GDP Growth คืออะไร? เหตุใด คำตอบนี้ จึงสำคัญต่อความเข้าใจของทั้งประเทศ และรัฐบาลแจกเงิน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงไหม?

Latest


ในวันที่ผู้คนยังรู้สึกว่าข้าวของแพง รายได้ไม่พอใช้ และอนาคตเศรษฐกิจยังมืดมัว แต่วานนี้ (20 พ.ค.2568) รัฐบาลนำโดย “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาประกาศด้วยน้ำเสียงมั่นใจ หลังจาก สภาพัฒน์ฯ รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1/2568 ว่าเติบโตดีเกินคาด ที่ 3.1%  

  • GDP ไตรมาส 3 ปี 2567 โต 3.0%
  • GDP ไตรมาส 4 ปี 2567 โต 3.3%
  • GDP ไตรมาส 1 ปี 2568 โต 3.1% 

สร้างประวัติศาสตร์ไทย ภายใต้รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ที่เข้ามาบริหารประเทศ ผลักดัน “GDP” สามารถเติบโตได้เกิน 3% ติดต่อกัน 3 ไตรมาส  โดยรัฐบาลยังชี้ว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียง 7 ครั้งในประเทศไทย  ขณะสถิติสูงสุดของประเทศ เกิดขึ้น ในรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ GDP โตกว่า 3%  ติดต่อกัน ถึง 22 ไตรมาส 

อย่างไรก็ดี ทันทีที่ปรากฎพาดหัวข่าวใหญ่ จากหลายหลากสื่อ มีนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ และ นักลงทุนหลายราย ออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน 

บนความกังวล ว่าการสื่อสารที่ผิดเพี้ยนของรัฐบาล จะสร้างความสับสนให้กับประชาชน เพราะตัวเลขที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างที่คิด กับเบื้องหลังตัวเลข GDP ที่ควรรู้อย่างแท้จริง 

อธิบาย ตัวเลข GDP Growth แบบเข้าใจ 

สำหรับ GDP Growth หรือ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ คือ ดัชนีชี้วัดผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ที่บอกถึงการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศในแต่ละช่วง มีการเติบโตเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าใด

และยังหมายถึง มูลค่ารวมของสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตได้ในประเทศช่วงนั้นๆ เช่น หนึ่งไตรมาส หรือหนึ่งปี นึกภาพง่าย ๆ ว่า ทุกครั้งที่เราซื้อของ กินข้าว เข้าร้านเสริมสวย จ่ายค่าไฟ ค่าเดินทาง หรือบริษัทผลิตสินค้า ให้บริการ ก็ถูกนับรวมอยู่ใน GDP ด้วย 

หรืออีกนัย พูดง่าย ๆ มันคือ ค่าความเปลี่ยนแปลงของความมั่งคั่งรวมทั้งประเทศ

  • ถ้า GDP โต = ประเทศมีการจับจ่าย ลงทุน สินค้าและบริการหมุนเวียนดี
  • ถ้า GDP หด = สัญญาณว่าเศรษฐกิจอาจชะลอ คนใช้จ่ายน้อย บริษัทไม่ขยับ

สำหรับข้อมูลที่รัฐบาลเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตกว่า 3% ติดต่อกัน 3 ไตรมาสแล้วนั้น ล่าสุด ดร.นงนุช ตันติสันติวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด ได้โพสต์ข้อความ ในบัญชีเฟซบุ๊ก Dr. Nuch Tantisantiwong  #เศรษฐศาสตร์วันละนิด ซึ่งอธิบายเรื่องดังกล่าวไว้อย่างเข้าใจ เพื่อตอบคำถามสังคมว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตดีจริงหรือไม่ 

โดยใจความระบุว่า ...

การคำนวณอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจทำได้หลายแบบ

แบบที่ 1. เทียบการเติบโตระหว่างไตรมาสเดียวกันของแต่ละปี คือ เทียบไตรมาสนี้กับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว เราเรียกว่า Year-on-Year หรือ YoY GDP Growth เป็นการวัดการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะเวลา 1 ปี 

ตัวเลขนี้ของไทยอยู่ที่ 

  • Q1 2023 : 2.7% ต่อปี
  • Q2 2023 : 1.9% ต่อปี
  • Q3 2023 : 1.6% ต่อปี
  • Q4 2023 : 1.8% ต่อปี
  • Q1 2024 : 1.7% ต่อปี
  • Q2 2024 : 2.3% ต่อปี
  • Q3 2024 : 3% ต่อปี
  • Q4 2024 : 3.2% ต่อปี
  • Q1 2025 : 3.1% ต่อปี

นี่เอง ที่ทำให้รัฐบาล บอกว่าโตเกิน 3% ติดต่อกัน 3  ไตรมาส 

ถ้าดูจากตัวเลขก็ไม่ผิด แต่ความหมายผิด เพราะตัวเลข YoY มันบอกถึงการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว การวัดแบบนี้ ตัวเลขจะสูงหรือต่ำอยู่ที่ตัวเลขและเศรษฐกิจในปีฐานที่เอามาเปรียบเทียบ

เช่น ถ้าคุณคำนวณ YoY GDP growth เทียบระหว่างปี 2022 กับปี 2021 (ระบาดโควิดรอบ alpha delta omicron คนตายเกลื่อน จนต้อง lock downช่วงไตรมาส 2-3) คำนวณยังไง YoY GDP growth ปี 2022 ในช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 2022 ก็จะสูง 

  • Q2 2022 : 2.4% ต่อปี
  • Q3 2022 : 4.4% ต่อปี

ก็อย่างที่คนในรัฐบาลออกมาบอกว่า GDP โตเกิน 3% เคยเกิดขึ้นแค่ในตอนสมัยนายกทักษิณ ก็เพราะคุณทักษิณเป็นนายกหลังช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งหลังเปลี่ยนระบบค่าเงินเป็นการลอยตัวแบบจัดการ เศรษฐกิจตกต่ำถึงขีดสุด ชนิดมีคนกระโดดตึกตาย ล้มละลายรายวัน 

เมื่อเงินบาทจาก 25 บาทต่อดอลลาร์ กลายเป็น 50 บาทต่อดอลลาร์ ในปี 1997 เศรษฐกิตกต่ำในปี 1998-1999 แต่การส่งออกก็เริ่มดีขึ้นและพยุงประเทศไปได้ ประกอบกับการคลังก็รัดเข็มขัด จนเศรษฐกิจเริ่มนิ่งอยู่ในจุดต่ำสุดของ wave ก่อนค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2000 จนพอจะมีเงินมาใช้จ่ายในสมัยคุณทักษิณเป็นนายกในปี 2001 และเมื่อแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขายเอาเงินไปจ่ายหนี้ ในปีต่อๆ มา ก็ทำให้ภาระการคลังผ่อนคลาย 

Wave ของเศรษฐกิจเมื่อลงไปถึงจุดต่ำสุด ก็จะตามด้วยการฟื้นตัว

คุณทักษิณเข้ามาในปี 2001 จังหวะที่เพิ่งผ่านจุดต่ำสุดมาได้ไม่กี่ไตรมาส ตัวเลข GDP ในปี 2000 ยังต่ำเพราะเพิ่งเริ่มฟื้นตัว พอเอา GDP ในปีที่คุณทักษิณเป็นนายกเปรียบเทียบกับตัวเลขในไตรมาสเดียวกันของปี 2000 ย่อมมีอัตราการเติบโตแบบ YoY สูงติดต่อกันหลายไตรมาส ก็เพราะฐานตัวเลขมันยังอยู่ในช่วง curve ต่ำติดประวัติศาสตร์ชาติ

แบบที่ 2. เทียบการเติบโตระหว่างไตรมาส คือ เทียบไตรมาสนี้กับไตรมาสที่แล้ว เราเรียกว่า Quarter-on-Quarter หรือ QoQ GDP Growth เป็นการวัดการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะเวลา 1 ไตรมาส

ตัวเลขนี้ของไทยอยู่ที่ 

  • Q1 2023 : 1.4% ต่อไตรมาส
  • Q2 2023 : 0.1% ต่อไตรมาส
  • Q3 2023 : 0.5% ต่อไตรมาส
  • Q4 2023 : 0% ต่อไตรมาส
  • Q1 2024 : 1.2% ต่อไตรมาส
  • Q2 2024 : 0.8% ต่อไตรมาส
  • Q3 2024 : 1.2% ต่อไตรมาส
  • Q4 2024 : 0.4% ต่อไตรมาส
  • Q1 2025 : 0.7% ต่อไตรมาส


นี่แสดงว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตทุกไตรมาสมาตั้งแต่ Q1 2024 แต่ว่าการเติบโตมันน้อย ถ้าจับบวกกันหารเฉลี่ย 4 ไตรมาสล่าสุด ก็โตไตรมาสละ 0.775%

ในขณะที่

  • Q2 2022 : โต 0.8% ต่อไตรมาส
  • Q3 2022 : โต 0.9% ต่อไตรมาส


โดยตัวเลขนี้ไม่ได้เทียบกับตัวเลขเศรษฐกิจในปีที่มีการ lock down เลย หรือก็คือเป็นการเติบโตรายไตรมาสในสถานการณ์ปกติ

ตัวเลข 0.7% ของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา หมายถึงในช่วงเวลา 3 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจเติบโต 0.7% อานิสงค์จากการเร่งนำเข้าสินค้าของฝั่งอเมริกาเพื่อเลี่ยงเจอภาษีสูงในอนาคต ทำให้ส่งออกเราขยายตัว และมาตรการช๊อปลดหย่อนภาษี

แบบที่ 3 คือ annualised GDP growth หรือ ก็คือการเอาแบบที่ 2 มาหาค่าอัตราการเติบโตเทียบเท่า 1 ปี โดยสมมติว่าการเติบโตในแต่ละไตรมาสเท่ากัน

เช่น Q1 2025 โต 0.7% สมมติว่าเศรษฐกิจจะโต 0.7% ต่อไตรมาส เท่านี้ไปในแต่ละไตรมาสตลอดปีนี้ อัตราการเติบโตทั้งปี คือ 0.7% x 4 = 2.8% ต่อปี

เราเรียกการคำนวณอัตราการเติบโตที่แปลงค่าเป็นต่อปีนี้ว่า annualised และเรียกอัตราอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประเภทนี้ว่า annualised GDP growth

แต่อย่างที่รู้กันว่า การส่งออกของไทยน่าจะโดนผลกระทบจากภาษีทรัมป์ไม่มากก็น้อย แถมด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะลดลงเมื่อเศรษฐกิจเค้าชะลอตัวจากปริมาณการค้าโลกที่ลดลง แล้วเจอกับภาระการคลังที่เพิ่มตามหนี้ ความจำกัดของงบประมาณที่จะใช้พยุงเศรษฐกิจได้ ธุรกิจก็อาจจะมีที่สภาพคล่องลดลง

ทั้งหมดนี้ ทำให้ในไตรมาส 2, 3, 4 QoQ GDP Growth มีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ ทั้งปี GDP growth ก็น่าจะอยู่ที่ 1.8-1.9% ถ้าสถานการณ์ไม่แย่นัก

ทั้งนี้ ดร.นงนุช ยังระบุว่า แรงกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ยังมาจากการที่  รัฐแจกเงินไปร่วม 1.745 แสนล้านบาท ภายในเวลาน้อยกว่า 6 เดือนช่วง Q4 2024- Q1 2025 คิดเป็นราวๆ 1% ของ GDP ทั้งปี 

ซึ่งอาจเป็นคำตอบได้ว่า การแจกเงินไม่ได้ช่วยให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง เพราะผลสุทธิของการแจกเงินมันขึ้นอยู่กับว่าเอาเงินมาจากไหน เอาไปใช้ซื้อไปจ่ายอะไร และมันเป็นการใช้เพิ่มขึ้นจริงมั้ยหรือแค่ใช้แทนที่เคยต้องจ่ายนั่นเอง ท้ายที่สุด ตัวเลข GDP Growth หรือ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ควรเลือกใช้ให้ถูก ถึงจะมีความหมาย

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่  https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ