จ้างทนายความสู้คดีสหรัฐฯ

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ เปิดไต่สวนตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) และตอบโต้การอุดหนุน (ซีวีดี) สินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ รวมถึงไทยมากขึ้น และล่าสุด เดือนเม.ย. 68 เพิ่งประกาศเปิดไต่สวนเอดี/ซีวีดีสินค้าแชสซีสำหรับพ่วงและบรรทุกจากไทย เวียดนาม และเม็กซิโก ตามที่อุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ยื่นคำร้อง เพราะสินค้าที่นำเข้านั้นขายในราคาต่ำกว่าราคาที่เป็นธรรม และผู้ส่งออกได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อให้แข่งขันได้ จนทำให้อุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ได้รับความเสียหาย ดังนั้น กรมจึงได้ว่าจ้างทนายความเพื่อสู้คดี และดำเนินการต่างๆ ให้ รวมถึงจะจ้างทนายความต่อสู้กรณีอื่นๆ ที่สหรัฐฯ เปิดไต่สวนไทยด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 68 สหรัฐฯ ประกาศผลไต่สวนชั้นที่สุดมาตรการเอดี/ซีวีดีเซลล์แสงอาทิตย์จากไทย กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย 2 รายการ คือ เซลล์แสงอาทิตย์ที่ประกอบเป็นแผงแล้ว และยังไม่ได้ประกอบเป็นแผง โดยไทยมีผู้ส่งออก 3 ราย ถูกเก็บอากรเอดี/ซีวีดีเพิ่มเติมจากอากรนำเข้าปกติ โดยถูกเก็บอากรเอดี 111.45-202.90% และอากรซีวีดี 263.74-799.55% ทั้งนี้ ปี 67 ไทยส่งออกเซลล์แสงอาทิตย์ที่ยังไม่ประกอบเป็นแผงไปสหรัฐฯ อันดับ 1 มูลค่า 506.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่งออกเซลล์แสงอาทิตย์ประกอบแล้วไปสหรัฐฯ อันดับ 1 เช่นกัน 1,891.73 ล้านเหรียญฯ อย่างไรก็ตาม แม้ไทยถูกเก็บอากรเอดี/ซีวีดีอัตราสูง แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติ