
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปี 68 กรมธนารักษ์ วางแผนทบทวนการเพิ่มรายได้และค่าเช่าที่ราชพัสดุใหม่ โดยตั้งเป้าหมายจะมีรายได้รวม และเพิ่มผลตอบแทนจากสินทรัพย์หรือที่ดิน (อาร์โอเอ) 20% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท จากเป้าหมายปีนี้ที่ 11,000 ล้านบาท รวมเป็นกว่า 13,000 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจาก 2 ส่วน คือ 1.ปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สัญญาครบกำหนด 2.นำที่ราชพัสดุที่ว่างเปล่า หรืออยู่ในครอบครองหน่วยราชการกว่า 1 ล้านไร่ มาทำแผนพัฒนาพร้อมกำหนดส่วนแบ่งรายได้ร่วมกัน หลังจากที่ไม่เคยปรับค่าเช่าเลยกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่พื้นที่โดยรอบเจริญขึ้นมาก โดยเบื้องต้นจะจับมือกับกระทรวงสาธารณสุข นำพื้นที่มาพัฒนาด้านสถานพยาบาล และแบ่งรายได้ซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมธนารักษ์มีรายไดอาร์โอเอเพียงปีละ 3% ซึ่งน้อยมาก โดยปัจจุบันกรมธนารักษ์มีที่ราชพัสดุ 12.6 ล้านไร่ แบ่งเป็นที่ดินเพื่อความมั่นคง 2.6 ล้านไร่ ที่หน่วยงานราชการ 10.48 ล้านไร่ ซึ่งในจำนวนนี้จะนำมาบริหาร 1 ล้านไร่ เน้นเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์เป็นหลัก ไม่กระทบต่อที่อยู่ที่ทำกินประชาชน หรือที่สาธารณะประโยชน์ สำหรับการจัดเก็บรายได้รอบ 5 เดือนงบประมาณปี 68 จัดเก็บรายได้จากค่าเช่าที่ได้แล้ว 9,800 ล้านบาท คิดเป็น 91% ของเป้าหมายค่าเช่าที่ทั้งปี 10,600 ล้านบาท