วีซ่าเผยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์การใช้จ่ายในการเดินทางของผู้บริโภคในช่วงสองเดือนแรกของปี 2568 พบว่าการเดินทางขาเข้ามายังประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง ด้วยแรงส่งจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น เปรียบเสมือนการตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกจับจ้องและรอคอยที่จะได้มาเยือนสักครั้ง และการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาพักใจที่ประเทศไทยนั้นจะไม่เพียงแต่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศเท่านั้น แต่ยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อีกด้วย
ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้หมวดการใช้จ่ายต่าง ๆ ในประเทศเติบโตขึ้น ประกอบด้วย ที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก การดูแลสุขภาพ และอาหารรวมถึงของชำ ตามลำดับ
และ 5 อันดับแรกของประเทศที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในประเทศไทย ได้แก่
ปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เราพบว่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจากตลาดหลักของเรา คือ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส เติบโตขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยยังน่าดึงดูดในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เราพบว่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีใต้ชะลอตัวลงเล็กน้อย”
จากรายงานของวีซ่าพบว่า จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุดในช่วงสองเดือนแรกของปี กรุงเทพฯ ยังคงขึ้นเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยชลบุรี (เมืองพัทยา) สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุยและเกาะพะงัน) ภูเก็ต ปิดท้ายด้วยสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการใช้จ่ายในร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยชลบุรี และเชียงใหม่ มีการใช้จ่ายในหมวดอาหารฟาสต์ฟู้ดเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาที่ทำให้ยอดการใช้จ่ายทุบสถิติปีก่อน ๆ ได้จากกำลังซื้อของและจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้
และไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่เป็นส่วนหนึ่งของกำลังในการผลักดันเศรษฐกิจไทย แต่กลุ่มชนชั้นเศรษฐกิจใหม่และกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงเองก็มีส่วนขับเคลื่อนการเติบโตของการใช้จ่ายภายในประเทศเช่นกัน
โดยในฝั่งของการใช้จ่ายภายในประเทศ กลุ่มชนชั้นเศรษฐกิจใหม่และกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงเป็นแรงผลักดันการเติบโตของการใช้จ่าย สำหรับร้านค้า (Face-to-Face) และหมวดการใช้จ่ายที่เติบโตเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร เครื่องใช้และอุปกรณ์เพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน เชื้อเพลิง และอาหารรวมถึงของชำ
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าและบริการบางหมวดที่ยอดการใช้จ่ายเติบโตขึ้น คือ บริการทางวิชาชีพที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะทาง เช่น นักบัญชี บริการทางกฎหมาย สถาปนิก เป็นต้น และลำดับรองลงมาคือหมวดการศึกษาและบริการภาครัฐ ซึ่งเติบโตเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจากกลุ่มชนชั้นเศรษฐกิจใหม่
ในขณะเดียวกันการท่องเที่ยวขาออก ประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ครองอันดับหนึ่งสำหรับผู้บริโภคชาวไทยในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ โดย 5 จุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย ประกอบด้วย
ทั้งวีซ่ายังเผยอีกว่าพวกเขาเห็นการใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศจีนเพิ่มขึ้นสามหลักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังเป็นหมุดหมายใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่ผู้คนไทยให้ความสนใจมากขึ้น
และหมวดที่นักท่องเที่ยวชาวไทยใช้จ่ายมากที่สุดเมื่อเดินทางในปีนี้ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และที่พัก โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น โดยวีซ่าพบว่าเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยวเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า
ลำดับรองลงมาคือการใช้จ่ายที่ร้านขายสินค้าลดราคา ร้านอาหาร อาหารและของชำ ซึ่งมีการเติบโตปีต่อปีที่ 20 เปอร์เซ็นต์ และ 18 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ย ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นอีกว่ามากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของผู้ถือบัตรวีซ่าที่เดินทางไปฝรั่งเศสและฮ่องกง มักใช้จ่ายในหมวดเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากกว่า
นอกจากนี้ อัตราการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวขาออกที่เดินทางไปประเทศจีนยังเติบโตสูงสุดในทุกหมวดการใช้จ่ายหลัก เมื่อเทียบกับการเที่ยวในประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะการใช้จ่ายในหมวดห้างสรรพสินค้า เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ร้านขายสินค้าลดราคา และความบันเทิง ตอกย้ำให้เห็นว่าในอนาคต ประเทศจีนอาจกลายเป็นหมุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่แซงหน้าญี่ปุ่นที่เคยครองใจคนไทยก็เป็นได้
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney