
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า หลังจากที่ร่างแก้ไข พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อยกระดับการปราบปรามโจรออนไลน์ ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2568 และเข้าสู่การตรวจร่างของสำนักงานกฤษฎีกาไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานกฤษฎีกาได้ส่งกลับร่างกฎหมายโดยเสนอแยกเป็น 2 พ.ร.ก. ได้แก่ ร่างแก้ไข พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้กระทรวงการคลัง เพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำกับดูแลแพลตฟอร์มให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ P2P (peer-to-peer) จากต่างประเทศ หากพบไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถส่งเรื่องให้กระทรวงดีอีปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ทันที
ส่วนร่างพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของกระทรวงดีอีนั้น นอกจากการแยกการกำกับดูแลแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลไปให้ ก.ล.ต.แล้ว เนื้อหาสาระยังคงเดิม โดยมีการสร้างระบบการคืนเงินให้กับเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคำสั่งศาล รวมทั้งการยกระดับความร่วมมือในการป้องกันภัยของธนาคาร ค่ายมือถือและโซเชียลมีเดียให้ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายของเหยื่อ หากพบไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่พึงกระทำ
“ขณะนี้ผมได้ลงนามเพื่อเสนอร่าง พ.ร.ก.ทั้ง 2 ฉบับกลับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งในวันที่ 8 เม.ย. 2568 นี้ ซึ่งหาก ครม.เห็นชอบ กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ทันทีที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา” ประเสริฐ กล่าว
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney