
ไม่ต้องใช้เอกสารรับรองรายได้ ,ไม่เข้มเครดิต! ,มีบัตรประชาชนใบเดียว ติดบูโร-แบล็คลิสต์ ก็ขาย-ฝากได้ ถือตั๋วยาวๆ 6 เดือน
นี่เป็นแค่เหตุผลบางส่วนที่ทำให้ “โรงรับจำนำ” ในประเทศไทย ยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโต สวนทางขาลงของธุรกิจอื่นๆ
หากแต่ เหตุผลที่แท้จริง อาจสะท้อนภาพเศรษฐกิจ และ การเข้าถึงสินเชื่อที่ยากลำบากมากขึ้นของคนไทยในยามนี้ได้ไม่น้อย
เพราะ “โรงรับจำนำ”ได้กลายเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือก เข้าถึงง่าย ทั้งในหมู่คนทั่วไป จากข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ ที่มีนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น
ทำให้คนไทย จึงหันมาใช้บริการ “โรงรับจำนำ” แลกเงินทุน ที่ได้ง่ายกว่ามากขึ้น อีกทั้งความต้องการ ยังมาจากกลุ่มธุรกิจ SME ร้านอาหาร ธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ต้องการเงินทุนเพื่อนำไปปรับปรุงกิจการอีกด้วย
Thairath Money เจาะข้อมูลจาก วิจัย LH (ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) พบว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา มีคนไทย นำทรัพย์ไปจำนำ ผ่าน โรงรับจำนำทั่วประเทศราว 840 แห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน รวมทั้งสิ้น 1.23 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 9.1%
สอดคล้องกับมูลค่าทรัพย์จำนำที่เพิ่มขึ้น 19.8% มาอยู่ที่ระดับ 24,423 ล้านบาท เติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง ปี 2563-2566 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 1.3%
ขณะที่ทรัพย์ไถ่ถอนมีมูลค่ารวม 23,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์จำนำคงเหลือ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 6,502 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.6%
ส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าว มีความสามารถในการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง โดยมีอัตรากำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 8%ต่อปี ซึ่งโรงรับจำนำ ยังได้รับอานิสงส์จาก “ราคาทองคำ” ที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจาก “ทองคำ” เป็น ทรัพย์สินหลักที่ถูกนำมาจำนำ ดังนั้นมูลค่าทองคำที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้ วงเงินที่ผู้จำนำได้รับสูงขึ้นตามไปด้วย และช่วยลดความเสี่ยงของโรงรับจำนำ
อย่างไรก็ดี วิจัย LH วิเคราะห์ว่า แม้ธุรกิจโรงรับจำนำ จะมีทิศทางเติบโตเป็นบวก จากสภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นดี ทำให้คนไทยขาดสภาพคล่อง
แต่ยังต้องเผชิญการแข่งขันจาก ผลิตภัณฑ์สินเชื่อระยะสั้นที่ไม่มีหลักประกันของกลุ่มธนาคารพาณิชย์และ Non-bank ที่ปัจจุบันต่างหันมาเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยและ SME เพราะ เป็นตลาดที่เติบโตดีและให้ผลตอบแทนสูง ส่งผลให้โรงรับจำนำต้องมีการ ปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
โดยหนึ่งในกลยุทธ์ สำคัญคือการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยจากเดิมที่ถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่ เข้าถึงได้ยากและมีภาพลักษณ์ล้าสมัย เพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มา เลือกใช้บริการมากขึ้นนั่นเอง
ที่มา : วิจัย LH
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney