ซีรีส์ The White Lotus แจ้งเกิด “เกาะสมุย” อาจกลายเป็น ทำเลทองแห่งใหม่ ของ“อสังหาฯไทย”

กระแสดังของซีรีส์ The White Lotus ซีซัน3 ที่มีตัวแทนคนไทยอย่าง “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” หรือ Lisa BLACKPINK ร่วมแสดงเป็นตัวละครหลัก และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้

จากความน่าติดตามของเนื้อเรื่องแนวดราม่าคอมเมดี้ เหตุการณ์วุ่นวายของกลุ่มคนรวยที่มีเบื้องหลังเป็นปริศนาด้านมืดรอเปิดเผย อีกทั้งเรื่องราวยังมีการถ่ายทำในโลเคชั่นต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะเกาะสมุย ผ่านการแนะนำหน้าจอไปสู่สายตาของผู้ชมจากทั่วโลก ให้เป็น "สวรรค์เขตร้อน” หรูหราและสงบเงียบ

ขณะโรงแรมอนันตรา บ่อผุด เกาะสมุย รีสอร์ท และ อนันตรา ลาวาณา เกาะสมุย รีสอร์ท ที่เป็นสถานที่หลัก ฉากที่แสดงถึงความสวยงามของชายหาด สถานที่หรูหรา และทิวทัศน์ของเกาะสมุย ยิ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับเกาะสมุย

จนถูกคาดการณ์ว่าซีรีส์เรื่องนี้กำลังจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในเมืองท่องเที่ยวอีกครั้ง ภายใต้ภาพอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยว อาจเป็นเพียงทางรอดเดียวของผู้พัฒนาในยุคนี้ โดยเฉพาะการเพิ่มความต้องการเข้ามาอยู่อาศัยและลงทุนของชาวต่างชาติ เรียกแขกนักพัฒนา “ที่ดิน” ให้เข้าไปพัฒนาโปรเจกต์เพื่อรองรับโอกาสทองครั้งใหม่

The White Lotus ปลุกทำเล เกาะสมุย 

ย้อนไปที่ผ่านมา เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หรูหราและเป็นส่วนตัว ชายหาดที่สวยงาม อากาศร้อนชื้นตลอดปี และบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้เกาะสมุยเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์

ขณะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อสังหาฯ เกาะสมุย ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อจากประเทศจีน รัสเซีย และยุโรป ซึ่งมักจะซื้อบ้านพักตากอากาศเพื่อการลงทุนหรือการพักผ่อน

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับทำเลทองร้อนแรงอย่าง “ภูเก็ต” ความเคลื่อนไหวของอสังหาฯ เกาะสมุยยังคงมีข้อจำกัดในด้านการพัฒนา โดยเฉพาะในเรื่องของโฉนดที่ดินที่ไม่สามารถพัฒนาได้ในบางพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะสมุยตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีภูเขา และการขออนุญาตต่าง ๆ ยังมีข้อจำกัด

ปัญหานี้ส่งผลให้นักพัฒนาอสังหาฯ ส่วนใหญ่เลือกที่จะสร้างโครงการในพื้นที่ชายหาดหลักที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมแทน

จากประเด็นดังกล่าว ในมุมมองของกูรูอสังหาฯ อย่าง “ภัทรชัย ทวีวงศ์” ผู้อำนวยการแผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เผยว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ทำเล “สมุย” เริ่มร้อนแรง จากการที่มีกลุ่มทุนเข้าไปพัฒนาโครงการพูลวิลล่ารูปแบบ Branded Residence จำนวน 4 ยูนิต แต่เป็นยูนิตที่มีราคาขายมากกว่า 100 ล้านบาท ปรากฏว่ามียอดขายที่ดีมาก

ขณะวิลล่าระดับราคาอื่น ๆ บนเกาะสมุยมีไม่มาก แต่กลับเป็นที่ต้องการสูง เพราะหากเปรียบเทียบกับอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ราคาบนเกาะสมุยถูกกว่า เช่น วิลล่าราคา 30-50 ล้านบาท ในพัทยาหรือภูเก็ต อาจได้พื้นที่บ้านขนาดเล็ก แต่หากซื้อบนเกาะสมุย เจ้าของอาจได้พื้นที่กว้างกว่า 400 ตร.ม. หรือขนาดกว่าครึ่งไร่ ทำให้อสังหาฯ สมุยเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติจากจุดเด่นราคาถูกกว่า

ขณะตลาดคอนโดฯ นั้น เรียกว่าอยู่ในภาวะขาดแคลน ซัพพลายน้อยกว่าดีมานด์ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายเพียงหลักหน่วย ขณะบางโครงการใช้เวลาขายหมดใน 1 ปี หรือเพียง 1 เดือน ก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 90%
ทั้งนี้ เนื่องมาจากอุปสรรคเรื่องที่ดินสำหรับการพัฒนาฯ

ข้อมูลจาก คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบัน ตลาดอสังหาฯในเกาะสมุย มีหน่วยที่อยู่อาศัย ทั้งหมด 1,560 หน่วย ซึ่งแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

วิลล่า : 23 โครงการ /339 หน่วย (ราคา 15-250 ล้านบาท)

คอนโดมิเนียม: 3 โครงการ /739 หน่วย

โครงการบ้าน : 25 โครงการ /482 ยูนิต (ราคา 2-20 ล้านบาท)

ทำเลที่ตั้งหลัก ได้แก่ 

• แม่น้ำ
• ชายหาดเฉวง-บ่อผุด
• ชายหาดละไม

การกระจายตัวของโครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของตัวเลือกสำหรับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ 

อย่างไรก็ดี ในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นการขยับเข้าไปลงทุนใหม่ของนักพัฒนาบางราย อย่างศุภาลัย อีกทั้งยังมีกลุ่มทุนโรงแรมหลายรายอยู่ระหว่างการศึกษาแผนพัฒนา และมีการติดต่อมายังบริษัทให้เป็นตัวแทนในการซื้อ-ขายที่ดิน

โดยเบื้องต้นคาดว่า จากกระแสซีรีส์ The White Lotus จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่เกาะสมุยในสายตาชาวต่างชาติในมิติที่มากขึ้น และปลุกกระแสการเข้าไปพัฒนาที่ดิน ที่กลุ่มโรงแรม และโครงการที่พักอาศีย เพื่อรองรับโอกาสดังกล่าว

เจาะเทรนด์อสังหาฯเมืองท่องเที่ยว พัทยา ฟื้นแรง ตามรอยภูเก็ต 

ด้านแนวโน้มอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวชื่อดัง ภูเก็ต “ภัทรชัย” ให้ข้อมูลสำคัญว่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตในปี 2567 ที่ผ่านมาสูงถึง 14 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 400,000 ล้านบาท และผลักดันให้ธุรกิจอสังหาฯ ภูเก็ตเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนผู้พัฒนาบางรายก่อสร้างไม่ทันต่อความต้องการ ขณะกลุ่มนักลงทุนต่างชาติบางกลุ่ม ยังคงสนใจการซื้อคอนโดฯ แบบเหมาอาคาร

เกิดภาพซัพพลายทั้งคอนโดฯ และพูลวิลล่า บ้านพักตากอากาศ เปิดขายใหม่มากที่สุดในรอบ 15 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมมากกว่า 158,638 ล้านบาท จากทั้งหมดมากกว่า 140 โครงการนั้น

คาดการณ์ว่าปี 2568 อสังหาฯ ภูเก็ต ยังคงจะร้อนแรงต่อเนื่อง แต่ซัพพลายรวมอาจปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนทำเลที่ยังคงได้รับความนิยม ยังคงเป็นทำเลบางเทา เชิงทะเล ราไวย์ กะตะ กะรน และในพื้นที่เมืองภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม เมืองท่องเที่ยวที่น่าจับตามองอีก 1 โลเคชั่น คือ ชลบุรี สะท้อนจากการกลับมาคึกคักของตลาดคอนโดฯ มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์และผู้พัฒนารายใหญ่ในพื้นที่

โดยปีที่ผ่านมามีโครงการคอนโดฯ เปิดขายใหม่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มากถึง 20 โครงการ 10,443 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมถึง 40,865 ล้านบาท โดยเฉพาะในโซนพัทยา ราว 7,897 ยูนิต มูลค่า 36,060 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 5 ปี ของพัทยา

จึงคาดการณ์ว่าปี 2568 ตลาดคอนโดฯ พัทยา ที่เคยซบเซาอย่างหนักในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อหลายปีก่อน จะกลับมาคึกคักและร้อนแรงในแง่การลงทุน ไม่ต่างจาก “ภูเก็ต” ทั้งในพื้นที่ใจกลางพัทยา จอมเทียน นาจอมเทียน วงศ์อมาตย์ และคาดการณ์ว่าอาจมีคอนโดฯ Branded Residence หรือคอนโดฯ ระดับลักซัวรีเกิดขึ้นด้วย

ที่มา : Max ,เว็บไซต์ anantara ,คอลลิเออร์ส ประเทศไทย

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/business_marketing 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney