อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย กำลังเป็นเพียงอดีตที่เล่าขาน! จากผู้ผลิต สู่ ผู้ประกอบในมือต่างชาติ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย กำลังเป็นเพียงอดีตที่เล่าขาน! จากผู้ผลิต สู่ ผู้ประกอบในมือต่างชาติ

Date Time: 20 ส.ค. 2567 11:17 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย อาจกำลังเป็นเพียงอดีตที่เล่าขาน! หลัง “สินค้า” เสื่อมความนิยมอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีล้าหลังตลาดโลก จับตาบทบาทในอนาคต อาจถูกลดทอน จากผู้ผลิต สู่ ผู้ประกอบ ในมือต่างชาติ ที่ส่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Latest


ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไทยถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าจำพวกหน่วยความจำ Hard Disk Drive (HDD) ที่เคยสร้างรายได้ในปี 2565 กว่า 4.55 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 19% ของมูลค่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ผ่านไปแค่ปีเดียว มูลค่าของสินค้าดังกล่าวกลับลดลงเหลือ 3.53 แสนล้านบาท หรือลดลงกว่า 22.5% ในปี 2566 จากการที่ภาคการผลิตไทยยังตามไม่ทันเทคโนโลยีโลกกับระบบหน่วยความจำในยุคปัจจุบันอย่าง SSD (Solid State Drive) ที่ถูกพัฒนาต่อเนื่องจนมีข้อได้เปรียบเกือบทุกมิติ

ทั้งมีขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบา ความเร็วในการส่งข้อมูล และราคาขายต่อหน่วยความจำที่ใกล้เคียงกับ HDD มากขึ้น จึงส่งผลให้ SSD ได้รับความนิยมมากขึ้น

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย กับ นัยทางเศรษฐกิจ

ความอ่อนแอของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่นับว่ามีบทบาททางเศรษฐกิจสูง สร้างเม็ดเงินสูง 2.5 ล้านล้านบาท (ปี 2566) รวมถึงเป็นแหล่งการจ้างงานสำคัญ จากการเป็นผู้ผลิตและโรงงานประกอบ ใช้แรงงานสูงกว่า 120,000 ตำแหน่ง จึงกำลังส่งสัญญาณออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

สอดคล้องกับการปิดโรงงานอุตสาหกรรมในไทย ยอด 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 2567) โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานรวมอยู่ที่ 667 แห่ง เงินทุน 18,878 ล้านบาท และเลิกจ้างคนงาน 19,706 ตำแหน่ง

โดย Economic Outlook ของสภาพัฒน์ วานนี้ยังมีการระบุถึงการแจ้งปิดกิจการโรงงานอุตสาหกรรมว่าได้สื่อถึงนัยทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างชัดเจน ที่ต้องชวนกันจับตามองและหาทางออก เพื่อให้ไทยสามารถอยู่รอดและสามารถพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านสำคัญครั้งนี้

เดินหน้าเข้าสู่ ยุคเสื่อมถอย เพราะความล้าหลังทางเทคโนโลยี

ขณะศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics วิเคราะห์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยว่า ความเสื่อมถอยดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจ จากการหมุนเวียนของเงินผ่านการบริโภคของแรงงานตามพื้นที่ประกอบการที่กระจายอยู่แต่ละภูมิภาคของประเทศ

รวมถึงผลที่ตามมาต่อเศรษฐกิจจากการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ให้กลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น การจัดหาวัตถุดิบที่เกี่ยวข้อง อย่างชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์และแผงวงจรพิมพ์

“อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยในระยะถัดไป กำลังจะเข้าสู่ช่วงถดถอย หากไทยไม่เร่งปรับเพื่อเปลี่ยน อุตสาหกรรมดังกล่าวอาจเป็นเพียงอดีตที่เล่าขาน”

ทั้งนี้ เพราะแนวโน้มของปี 2567 แม้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะได้รับแรงหนุนจากกลุ่มสินค้าจำพวกอุปกรณ์ใช้ในกลุ่มคอมพิวเตอร์ กลุ่มเทคโนโลยีสื่อสาร และกลุ่มจัดการพลังงาน แต่ด้วยการหดตัวของกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจรรวมและกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ส่งผลให้การเติบโตจำกัดแค่เพียง 0.2% เท่านั้น

จากบทบาทผู้ผลิต ที่อาจถูกลดทอน เป็นผู้รับจ้างประกอบให้ต่างชาติ 

ความน่ากังวลก็คือ การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีที่รวดเร็วขึ้น จะส่งผลให้สินค้าที่ผลิตได้ในประเทศกลายเป็นสินค้าเทคโนโลยีที่ล้าสมัย และเมื่อเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเริ่มไม่สามารถนำมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยียุคใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

ผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ควรกังวลสำหรับเศรษฐกิจไทย เพราะอย่างที่ระบุ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยนับเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างรายได้และการจ้างงานมหาศาลมาตั้งแต่อดีตและปัจจุบัน

“การข้ามขั้นตอนการใช้เทคโนโลยีเดิม แล้วเริ่มจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น คอมพิวเตอร์พกพาที่ใช้แพร่หลายในปัจจุบันใช้ SSD เป็นส่วนประกอบหลัก ก็คงไม่มีความจำเป็นต้องย้อนกลับไปใช้ HDD อีกต่อไป”

อีกตัวอย่างที่ได้รับผลกระทบคือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทวงจรรวม (Integrated Circuit) โดยไทยผลิตและส่งออก Non-Processor IC เป็นหลัก ซึ่งสามารถตอบสนองอุตสาหกรรมดั้งเดิมของไทยได้ดี เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม การก้าวกระโดดของเทคโนโลยีทำให้สินค้าต่างๆ ถูกพัฒนาให้ประมวลผลหรือปรับเปลี่ยนระบบอัจฉริยะ จึงก้าวกระโดดไปใช้ Processor IC มากขึ้น เช่น อุปกรณ์ IoT ระบบควบคุมยานยนต์ สมาร์ทโฟน หรือสิ่งต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้สะดวกและใช้งานง่ายขึ้น

ท้ายที่สุด ttb analytics สรุปไว้ว่า จากการขาดความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนสูง ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญต่อสินค้าในปัจจุบัน รวมถึงปัญหาต้นทุนการผลิตในไทยที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

อาจทำให้ไทยถูกเปลี่ยนสถานะ ลดทอนบทบาทจาก “ผู้ผลิต” เป็นผู้รับจ้างประกอบ ส่งผลให้เม็ดเงินที่ควรเป็นของผู้ประกอบการในประเทศกลับต้องสูญเสียให้กับผู้ผลิตต่างชาติ และส่วนที่เป็นรายได้ที่แท้จริงของผู้ประกอบการไทย อาจเหลือเพียงค่าแรงที่มีสัดส่วนน้อยเท่านั้น หากอุตสาหกรรมไทยยังไม่ปรับตัว

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ