นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า คลังเสนอแนวทางเพิ่มอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของปีนี้ให้ได้ 3% จากที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดจะเพิ่ม 2.4% และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) 2.5% โดยมีแนวทาง คือ
1.เพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเป้าเดิม 35.7 ล้านคน หากเพิ่มได้อีก 1 ล้านคนจะดันจีดีพีเพิ่ม 0.12% ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับจะทำให้ได้และอาจได้ถึง 2 ล้านคน
2.เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของปีงบ 67 ซึ่งจากวงเงินทั้งสิ้น 850,000 ล้านบาท ในปีปกติมีการเบิกจ่าย 60% ของวงเงิน และปีนี้คาดเบิกจ่ายได้ 70% แต่เป้าหมายอยากเห็น 75% และขณะนี้เบิกจ่ายได้ 41% อย่างไรก็ตาม วันที่ 12 มิ.ย.นี้จะหารือกับหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณ และคาดจะเบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เพื่อหาทางขับเคลื่อนการเบิกจ่ายให้ได้ ซึ่งหากเบิกจ่ายได้ 70% จะผลักดันจีดีพีเพิ่มขึ้น 0.24%
3.เร่งการลงทุนของเอกชนโดยส่วนที่ได้รับมาตรการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้ว 800,000 ล้านบาท หากปีนี้ลงทุนจริง 30,000-40,000 ล้านบาท ก็จะช่วยเพิ่มจีดีพีได้
“จีดีพีไตรมาสแรกขยายตัว 1.5% และคาดการณ์ทั้งปีนี้ที่ 2.4-2.5% ถ้าเป็นอย่างนี้ อยู่เฉยๆ ไม่ได้ คงต้องทำอะไรบางอย่าง ทางรอดคือ จีดีพีต้องขึ้นถึง 5% แต่ขอดูปีนี้ก่อน ที่จะทำให้ได้ 3% และ 3 ปีข้างหน้าจะดูต่อไปว่าต้องทำอย่างไร และจะมีมาตรการอะไรออกมา”
นอกจากนี้ ยังหารือการแก้ปัญหาทางการเงิน 2 ประเด็น คือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สูง และการเข้าไม่ถึงสินเชื่อ โดยจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยเหลือคนที่ติดเครดิตบูโรจากวิกฤติโควิด หรือลูกหนี้รหัส 21 ให้ออกจากเครดิตบูโรได้เร็วขึ้นในปี 68 ส่วนการเข้าถึงสินเชื่ออยู่ระหว่างพิจารณาให้ธนาคารออมสิน นำวงเงิน 100,000 ล้านบาท มาให้ธนาคารพาณิชย์กู้อัตราดอกเบี้ย 0.1% และนำไปปล่อยกู้ต่อดอกเบี้ย 3.5% ใน 3 ปีแรก
และปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ย 5-6%
อย่างไรก็ตาม แม้ทำให้ออมสินขาดทุน 1,000 ล้านบาท เพราะมีต้นทุนดำเนินงาน 1.7% ได้กลับคืนมาเพียง 0.1% แต่ไม่เป็นไร เพราะออมสินมีกำไรปีละ 30,000 ล้านบาท อีกทั้งจะหารือกับ ธปท.ว่ามีวิธีการใดอีก รวมถึงจะเสนอ ครม.ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเงินกู้ สูงสุด 10 ปี ตามโครงการ PGS 11 รายละไม่เกิน 40 ล้านบาท วงเงิน 50,000 ล้านบาท
นายพิชัยกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้เชิญนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน มานำเสนอข้อมูลการทำงาน หลังจากมีข่าวว่า โรงงานผลิตรถยนต์ซูบารุ และซูซูกิ ปิดกิจการในไทย ซึ่งรมว.แรงงานระบุว่า ไทยมีคนตกงาน 500,000 คนเศษ กลับเข้าระบบแล้วกว่า 300,000 คน เหลือตกงานจริง 170,000-180,000 คน เมื่อรวมกับผู้จบการศึกษาใหม่อีก 500,000 คน ทำให้มีผู้ต้องการทำงาน 600,000-700,000 คน ขณะที่ตลาดแรงงานต้องการ 500,000 คน ทำให้มีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีก 100,000 คน ซึ่งกระทรวงแรงงานรับไปแก้ปัญหา
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ครม.เศรษฐกิจ ได้ขอให้ออกมาตรการมาบังคับให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ซื้อน้ำมันไบโอดีเซล B100 ตามราคาประกาศของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ และนายก รัฐมนตรี ยังมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน สรุปรายละเอียดมารายงานก่อนการประชุม ครม. วันที่ 11 มิ.ย.นี้.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่