
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จังหวัดเพชรบุรี เห็นชอบโครงการพัฒนาของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 รวม 4 จังหวัด คือ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และประจวบคีรีขันธ์ รวม 18 โครงการ วงเงิน 514.89 ล้านบาท ส่วนแรกเป็นโครงการที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จใน 1 ปี รวม 10 โครงการ วงเงิน 246.26 ล้านบาท โดยจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณปี 2567 และงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป
อีกส่วนเป็นโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน 8 โครงการ วงเงิน 268 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้รับทราบในหลักการ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอโครงการเข้ามาเพื่อขอจัดสรรงบประมาณปี 2567 และงบกลางฯเช่นกัน นอกจากนั้น ยังเห็นชอบผลการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจแบบครบวงจร การลงทุน ท่องเที่ยว การเกษตร การเสริมสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม. ยังได้เห็นชอบการตรวจลงตรากรณีพิเศษสำหรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาทำงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรืออีอีซี วีซ่า ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี และได้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาคงที่ 17%
ขณะที่ต่อข้อถามกรณีทุเรียนเวียดนามตีแย่งตลาดทุเรียนไทยในประเทศจีนนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการแข่งขันเสรี ทุกๆ ประเทศที่เป็นปลายทาง อย่างในเคสนี้เป็นประเทศจีน ก็มีความต้องการอยากได้สินค้าคือทุเรียน คุณภาพและรสชาติจึงมีความสำคัญ ตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราที่เราจะต้องมีการแข่งขันพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายพันธุ์ เรื่องของการตรวจเช็กสภาพและคุณภาพของทุเรียน การขนส่งที่มีประสิทธิภาพเพื่อจะไปถึงได้อย่างรวดเร็ว เราก็มั่นใจในศักยภาพของทุเรียนไทย
ด้านนางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีการอนุมัติอีอีซี วีซ่า ว่า จะพิจารณาให้กับ บุคคล 4 ประเภท ได้แก่ ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ผู้บริหาร ผู้ชำนาญการ คู่สมรสและบุคคลซึ่งอยู่ในอุปการะ โดยต้องเป็นผู้ประกอบกิจการหรือมีสัญญากับบุคคลอื่นที่กำหนดให้ต้องปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบกิจการ โดยไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และต้องได้รับการรับรองคุณสมบัติจากผู้ประกอบกิจการและต้องแสดงหลักฐานการเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารและตัดสินใจหรือผู้มีประสบการณ์ในสายงาน จึงจะได้วีซ่าสูงสุดไม่เกิน 10 ปี ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยอนุญาตให้เข้ามาและอยู่ครั้งแรกเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี รวมทั้งยังได้สิทธิได้รับการลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราคงที่ 17% สิทธิในการได้รับการอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น การใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track) ณ สนามบินนานาชาติ การขอรับใบอนุญาตทำงาน หรือ EEC Work Permit เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้เห็นชอบแนวทางการให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พิจารณาทบทวนแนวทางสิทธิประโยชน์ในการได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย และให้ดำเนินการจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่องสิทธิ ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริม เพื่อประกาศใช้ต่อไป ซึ่งจะประกอบด้วยสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร และที่มิใช่ด้านภาษีอากร
ขณะเดียวกัน น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.สัญจร จ.เพชรบุรี มีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนสาย พบ.1010 แยก ทล.4-บ้านหนองโรง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 1 แห่ง ของกรมทางหลวงชนบทจากเดิม 138.60 ล้านบาท เป็น 152.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.07 ล้านบาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ 2560-2562 เป็นปีงบประมาณ 2560-2569.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่