ดีเซลขึ้นต่อเนื่องราคาสินค้าขยับ พาณิชย์จี้ตรึงราคา-ส.อ.ท.หวั่นเศรษฐกิจทรุด

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ดีเซลขึ้นต่อเนื่องราคาสินค้าขยับ พาณิชย์จี้ตรึงราคา-ส.อ.ท.หวั่นเศรษฐกิจทรุด

Date Time: 9 เม.ย. 2567 06:50 น.

Summary

  • ราคาดีเซลขยับเป็นลิตรละ 30.44 บาท หลังรัฐเลิกตรึงราคา พาณิชย์ขอผู้ผลิตตรึงราคาสินค้าช่วยประชาชน พร้อมเผย ขึ้นลิตรละ 1 บาท ดันเงินเฟ้อพุ่ง 0.08% ขณะที่ “ส.อ.ท.” แนะใช้เวที “กรอ.พลังงาน” ถกด่วนรับมือก่อนกระทบเศรษฐกิจ ย้ำขึ้นดีเซล 40 สตางค์ ยังไม่มีผลดันราคาสินค้า ถ้าขึ้นต่อเนื่อง สินค้าขยับแน่

Latest

กรมรางฯพาเปิดโลกดูงานรถไฟข้ามทวีป เส้นทาง “สิงคโปร์-ไทย-จีน” เชื่อมยุโรป

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ภายหลังสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาไม่เกินลิตรละ 30 บาท เมื่อวันที่ 31 มี.ค.67 ว่า กรมได้ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิต ยังคงตรึงราคาขายสินค้าอุปโภคบริโภคต่อไป เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ซึ่งได้รับคำยืนยันว่า ยินดีจะให้ความร่วมมือเต็มที่ “น้ำมันดีเซล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของต้นทุนขนส่ง แต่มีสัดส่วนเล็กน้อยในต้นทุนการผลิต ดังนั้น การปรับขึ้นราคาดีเซล จึงยังไม่มีผลทำให้ราคาขายสินค้าต้องขยับขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตสินค้าก็รับปากจะตรึงราคาขาย เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน และจัดโปรโมชันต่อเนื่องด้วย”

ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นจะทำให้เงินเฟ้อทั่วไปของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ไม่มากนัก โดยคาดว่าหากดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 1 บาท จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียง 0.08% และหากปรับขึ้น 2 บาท เงินเฟ้อจะปรับขึ้น 0.15% ส่วนกรณีที่ สนค.ได้ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ใหม่เป็น เพิ่มขึ้น 0.0-1.0% มีค่ากลาง 0.5% จากเดิมที่คาดติดลบ 0.3% ถึงบวก 1.7% ค่ากลาง 0.7% นั้น ยังไม่ได้รวมผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาดีเซล

ทั้งนี้ ปัจจุบันครัวเรือนไทยมีภาระค่าใช้จ่ายสูง โดยเดือน มี.ค.67 อยู่ที่ 18,034 บาท จากเดือน ก.พ.67 ที่อยู่ที่ 18,028 บาท โดยค่าใช้จ่ายสูงสุดคือค่าโดยสารสาธารณะ ค่าซื้อยานพาหนะ น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ 4,205 บาท ตามด้วย ค่าเช่าบ้าน วัสดุก่อสร้าง ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 4,003 บาท เป็นต้น

ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาดีเซลเป็น 30.44 บาท รัฐบาลควรหารือคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ด้านพลังงาน เพื่อร่วมกันวางแผนแก้ไขระยะสั้น กลาง และยาวอย่างเป็นระบบ เพราะการขึ้นราคาครั้งนี้ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะ เพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุนน้ำมัน จากขณะนี้มีฐานะติดลบเกือบแสนล้านบาท ประกอบกับ ราคาดีเซลตลาดโลกสูงขึ้น ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันใช้เงินจำนวนมากมาพยุงราคา แต่ควรบอกประชาชนให้ทราบข้อเท็จจริง เพื่อหาทางออกร่วมกัน

“เวที กรอ.พลังงานจะเป็นประโยชน์ เพราะเอกชนย่อมรู้ถึงผลกระทบว่า ราคาน้ำมันดีเซลระดับใดที่จะเหมาะสม ไม่กระทบต่อต้นทุนผลิตสินค้าจนเกินไป ซึ่งการขึ้นราคาครั้งนี้ยังคงไม่มีผลต่อระดับสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต่อไป หากทยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง จะกระทบต่อค่าขนส่งที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อต้นทุนการผลิต และการส่งออก ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้”

ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะทะลุ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังอิสราเอลโจมตีกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ซึ่งต้องติดตามว่าเหตุการณ์จะลุกลามกลายเป็นสงครามตะวันออกกลางหรือไม่ หากเกิดขึ้นจริง ราคาน้ำมันตลาดโลกจะขยับขึ้นได้อีก รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งวางแผนรับมือ ไม่เช่นนั้น จะกระทบเศรษฐกิจปีนี้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมาตรการตรึงราคาดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาทสิ้นสุดลง ทำให้ผู้ค้าน้ำมันแบรนด์ต่างประเทศขยับราคาขึ้นแล้ว โดยเชลล์ ปรับขึ้นรายแรกวันที่ 2 เม.ย.67 อยู่ที่ลิตรละ 30.44 บาท จากนั้นวันที่ 6 เม.ย.67 ปตท. และบางจาก ปรับขึ้นลิตรละ 44 สตางค์ มาอยู่ที่ 30.44 บาท ขณะที่กองทุนน้ำมัน มีปัญหาสภาพคล่อง เพราะเหลือเงินดูแลราคาน้ำมันได้เพียง 20,000 ล้านบาท หากยังต้องอุดหนุนราคาดีเซลต่อเนื่อง จะทำให้เงินหมดลง กระทรวงพลังงาน จึงบริหารราคาโดยขยับราคาขึ้นครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตรเพื่อลดผลกระทบและระหว่างนี้รอนโยบายช่วยเหลือของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงลดภาษีสรรพสามิต สำหรับฐานะกองทุนน้ำมัน สุทธิ ณ วันที่ 31 มี.ค.67 ติดลบ 99,821 ล้านบาท เป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 52,729 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 47,092 ล้านบาท.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ