GDP ไทยปี 66 โตต่ำ 1.9% เขย่าทิศทางเศรษฐกิจปี 67 ด้าน วิจัยกรุงศรี จ่อปรับลดคาดการณ์ GDP ว่าปีนี้อาจโตได้ต่ำกว่า 3% ชี้ ปัญหาเชิงโครงสร้าง บั่นทอนวัฏจักรการฟื้นตัว ทั้งภาคอุตสาหกรรม และการส่งออก เดินตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนปัจจัยบวก เงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังรอค้างพิจารณา 30 วัน
GDP หรือ การเติบโตทางเศรษฐกิจ ไตรมาส 4 ของปี 2566 ที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยล่าสุดวานนี้ ว่า โตเพียง 1.7%
อันเนื่องจากปัจจัยลบรุมเร้า ได้แก่
ทำให้ เศรษฐกิจไทย ทั้งปี 2566 ขยายตัวแค่ 1.9% เท่านั้น นับเป็นภาพสะท้อน ว่าเศรษฐกิจไทย กำลังอ่อนแอ และน่ากังวลถึงทิศทางเศรษฐกิจปีนี้ ที่อยู่ภายใต้แวดล้อม ปัจจัยโลก-ปัจจัยลบ หลายประเด็น จนสภาพัฒน์ เอง ก็คาดว่า GDP ไทย ปี 2567 จะมีโอกาสเติบโตได้ราว 2.2-3.2% เท่านั้น ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ (เดิม อยู่ที่ 2.7-3.7% )
ล่าสุด วิจัยกรุงศรี เผยแพร่บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ โดยชี้ว่า รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ซึ่งขยายตัว 1.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.6% และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี ที่ -0.6% ส่งผลให้ วิจัยกรุงศรีเตรียมปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ คาดปี 2567 โตต่ำกว่า 3% จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.4%
เนื่องจากตัวเลข GDP ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนอ่อนแอกว่าที่คาดไว้มาก ประกอบกับ ปัจจัยลบจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฉุดรั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกให้เติบโตช้ากว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
นอกจากนี้ หากปัญหาเชิงโครงสร้างบั่นทอนการฟื้นตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจจนลดทอนแรงส่งด้านอุปสงค์อาจเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้
ทั้งนี้ แม้จะเห็นว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง บวกกับมาตรการภาครัฐ คาดว่าจะช่วยหนุนการเติบโตของการใช้จ่ายในช่วงต้นปี จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมกราคมปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 47 เดือน ที่ 62.9 จาก 62.0 ในเดือนธันวาคม
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตต่ำและฟื้นตัวช้า ภาวะภัยแล้งที่อาจส่งผลต่อรายได้และผลผลิตในภาคเกษตรรวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ของโลกที่ยังคงยืดเยื้อที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกยังทรงตัวสูงและกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและกำลังซื้อในประเทศ
“แม้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี แต่เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนเติบโตต่ำ ฉุด GDP ทั้งปี 2566 และปี 2567”
สำหรับนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ล่าสุดการประชุมของคณะกรรมการนโยบายฯ เห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ โดยกำหนดกรอบเวลาพิจารณา 30 วัน ยังต้องรอความชัดเจน เช่นกัน
ที่มา : วิจัยกรุงศรี
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney