อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร? เมื่อกลายเป็น “ตัวแปร” สำคัญ กับเงินในกระเป๋าเราที่เปลี่ยนไป

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร? เมื่อกลายเป็น “ตัวแปร” สำคัญ กับเงินในกระเป๋าเราที่เปลี่ยนไป

Date Time: 5 ก.พ. 2567 14:21 น.

Video

WARRIX จากเสื้อนักเตะสู่สปอร์ตแวร์ระดับเอเชีย | BrandStory Exclusive EP.19

Summary

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร? เมื่อกลายเป็น “ตัวแปร” สำคัญ กับเงินในกระเป๋าของเราที่จะเปลี่ยนไป และเป็นตัวกำหนดราคาสินทรัพย์การลงทุนต่างๆ เปิดไทม์ไลน์การประชุมของ กนง. พร้อมจับตา มติที่ประชุมนัดแรก 7 ก.พ.นี้ ชี้ชัด "ดอกเบี้ยไทย" หลัง “เงินเฟ้อไทย” ร่วงต่ำสุดในรอบ 3 ปี สวนทาง ดอกเบี้ย 2.5% ที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี

Latest


การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปี 2567 เพื่อกำหนด “อัตราดอกเบี้ยนโยบาย” นัดแรก จะมีขึ้นวันพุธที่ 7 ก.พ.นี้ หลังจาก ดอกเบี้ย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 2.50% ต่อปี ซึ่งนับเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่มติที่ประชุม กนง. เมื่อเดือน ต.ค.ปี 2556

โดยปี 2567 ไม่ใช่แค่เป็นปีที่ “คนทั่วโลก” คาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ เพราะสำหรับประเทศไทยเอง เรื่องดอกเบี้ย ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ และมีแรงกดดันมาทุกทิศทุกทางเพื่อให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุมที่จะถึงนี้ เพื่อหวังบรรเทาค่าครองชีพของคนไทย

ดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร? 

แล้วดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Policy Rate คืออะไร? ทำไมเราต้องสนใจ "ดอกเบี้ยนโยบาย" คือ สิ่งที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศมีไว้เพื่อใช้ส่งสัญญาณให้ธนาคารต่างๆ เพิ่ม หรือลดดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ รวมถึงส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้ที่ออกใหม่ด้วย ทำหน้าที่กำกับ และกำหนด โดยธนาคารกลางของประเทศต่างๆ เช่น

  • ประเทศไทย คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

  • ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

  • กลุ่มประเทศยูโรโซน คือ ธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ซึ่งธนาคารกลางส่วนใหญ่มักมีการประชุมเพื่อพิจารณาดอกเบี้ยนโยบาย ประมาณปีละ 8 ครั้ง โดยมีการกำหนดวันประชุมในแต่ละปีไว้ล่วงหน้า แต่สำหรับ กนง.ของไทยจะประชุมปีละ 6 ครั้ง โดยไทม์ไลน์ในปี 2567 คือ 

  • พุธที่ 7 ก.พ. 2567
  • พุธที่ 10 เม.ย. 2567
  • พุธที่ 12 มิ.ย. 2567
  • พุธที่ 21 ส.ค. 2567
  • พุธที่ 16 ต.ค. 2567
  • พุธที่ 18 ธ.ค. 2567

ซึ่งในคราวนี้ หาก ธปท. ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย ก็จะส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารต่างๆ และดอกเบี้ยของตราสารหนี้ที่ออกใหม่ในประเทศไทยมีโอกาสปรับลดลงได้

ดอกเบี้ยนโยบาย กับความสัมพันธ์ต่อคนไทย 

ทั้งนี้ การปรับเพิ่มดอกเบี้ย / การลดดอกเบี้ย หรือแม้แต่คงดอกเบี้ยนโยบาย กลไกนั้นธนาคารกลางจะพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจ 

  • หากเศรษฐกิจกำลังซบเซา ก็อาจลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อให้ต้นทุนกู้ยืมเงินของกิจการลดลงซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหนึ่ง 
  • หากเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไปก็อาจเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนกู้ยืมเงินเพื่อให้กิจการต่างๆ ชะลอการลงทุน หรือการขยายธุรกิจลง

“ที่สำคัญ คือ การปรับเพิ่ม หรือลดดอกเบี้ยนโยบาย ย่อมส่งผลต่อดอกเบี้ยของธนาคารที่เราใช้บริการอยู่ และส่งผลต่อเงินในกระเป๋าของเรา รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์การลงทุนต่างๆ ด้วย” 

โดยธนาคารจะคิดดอกเบี้ยขึ้นตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคที่กู้เงินธนาคารมาใช้ หรือลงทุนต้องผ่อนสูงขึ้น โดยเขาจะมีรายจ่ายด้านดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เช่น ต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนคอนโด สูงขึ้น และทำให้มีเงินเหลือจับจ่ายใช้สอยน้อยลง เมื่อมีการใช้จ่ายน้อยลง ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง การจะสร้างแรงจูงใจให้มีการฝากธนาคารมากขึ้น โดยโฆษณาว่าได้ดอกเบี้ยสูงอาจทำได้ยาก

นอกจากนี้ยังมีผลต่อ การส่งออก เพราะต้นทุนต่างๆ มีราคาแพงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาสินค้าขึ้น เมื่อราคาสินค้าแพงกว่าประเทศคู่แข่งขัน นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นก็จะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศน้อยลงตาม

“ดอกเบี้ยนโยบาย” คนซื้อบ้านได้-เสีย อย่างไร? 

กระแสเรียกร้องให้ กนง.ลดดอกเบี้ย ยังมาจากฝั่งผู้ซื้อบ้าน ด้วยภาระการผ่อนที่เริ่มแบกไม่ไหว และกำลังจะกลายเป็น “หนี้เสีย” เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากในระบบเศรษฐกิจมีหนี้เสียมากๆ ก็จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจระดับมหภาคที่จะกระทบไปถึงทุกภาคส่วนได้ 

โดยในความเป็นจริง อัตราดอกเบี้ย กระทบโดยตรงทั้งกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านในช่วงนี้ และคนที่กำลังกู้ซื้อบ้านอยู่ในขณะนี้ เพราะหากธนาคารพาณิชย์พร้อมใจกันปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นตามกลไกของดอกเบี้ยนโยบาย แน่นอนว่าผู้ที่กู้ซื้อบ้านในช่วงนี้ หรือทำการรีไฟแนนซ์ จะได้รับการปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น ส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบจะเป็นผู้กู้ซื้อบ้านที่ได้รับดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3 ปีแรก ก่อนปรับเป็นลอยตัว

ตัวอย่างจาก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หากเงินกู้ 3,000,000 บาท เมื่อมีดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ต้องผ่อนเพิ่มเดือนละกี่บาท ดังนี้ 

อย่างไรก็ดี ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับตัวตาม แม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็มีผู้กู้ซื้อบ้านบางกลุ่มที่ยังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 

ดอกเบี้ย สัมพันธ์อย่างไร กับค่าเงิน และตลาดหุ้น

ขณะข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุ ดอกเบี้ยยังเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลง 

เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำผิดปกติ 0% หรือติดลบ (Negative Interest Rate) สิ่งที่มักเกิดตามมาคือ สกุลเงินของประเทศที่ใช้นโยบายลักษณะนี้จะอ่อนค่า เนื่องจากเงินเฟ้อสูง ในทางกลับประเทศที่พิมพ์เงินออกมาน้อย หรือขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดสภาพคล่องในปัจจุบัน จะมีเงินเฟ้อที่ต่ำ และสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้น 

ส่วนในตลาดทุนมีคำกล่าวว่า “ถ้าเดาทิศทางค่าเงินถูก ก็จะเดาทิศทางสินทรัพย์การเงินอื่นๆ ถูกต้องด้วย” นั่นเป็นเพราะตลาดเงินเป็นตลาดที่คาดเดาได้ยาก มีตัวแปรที่เกี่ยวข้องหลากหลาย ตั้งแต่เศรษฐกิจไปจนถึงการเมือง มีความสัมพันธ์กับแทบทุกสินทรัพย์ 

เงินเฟ้อ ตัวแปรกำหนดดอกเบี้ย

คำถามสำคัญ คือ แล้ว ธปท.ใช้อะไรพิจารณาขึ้น หรือปรับลด “อัตราดอกเบี้ย” อย่างที่รายงานไป ว่า กนง.เป็นผู้กำหนดนโยบายการเงิน ซึ่งใช้วิธีการนั้นจะใช้มติเสียงข้างมาก และเปิดเผยจำนวนคะแนนเสียงพร้อมกับผลการตัดสินนโยบายการเงินต่อสาธารณะ

 โดย กนง.มีกรรมการทั้งหมด 7 คน มาจากผู้บริหาร ธปท. 3 คน และมาจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ธปท. 4 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ หรือด้านการเงินการธนาคาร ซึ่งผ่านกระบวนการคัดเลือก มีวาระคราวละ 3 ปี และดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 วาระ

ตัวแปรสำคัญในการดำเนินนโยบายการเงิน คือ การปรับขึ้นลงของราคาสินค้า และบริการ หรือ “อัตราเงินเฟ้อ”

ทั้งนี้ นโยบายการเงินใช้เวลาประมาณ 2 ปีถึงจะมีผลเต็มที่ต่อเศรษฐกิจ ธปท.จึงต้องมีการประเมินภาวะเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อในอนาคตที่น่าเชื่อถือและครบถ้วนรอบด้าน โดยใช้ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือน และเครื่องชี้เร็วด้านเศรษฐกิจ และข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การสัมภาษณ์ผู้ประกอบการเชิงลึกทั่วประเทศ เพื่อให้การตัดสินนโยบายการเงินสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นอกจาก ภาวะเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ ธปท.ยังติดตามข้อมูลภาวะการเงิน และข้อมูลเสถียรภาพของระบบการเงินในภาคส่วนต่างๆ เช่น ธุรกิจ ครัวเรือน สถาบันการเงิน รวมไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินโลก เพื่อให้ตัดสินนโยบายบนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ต้องจับตาดู มติกนง.ล่าสุด วันพุธนี้ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร? หลังกระทรวงพาณิชย์ เพิ่งเผยว่า เงินเฟ้อทั่วไป ในเดือนม.ค.67 ว่า ลดลง 1.11% ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 35 เดือน สวนทาง อัตราดอกเบี้ย ในขณะนี้ อย่างมาก.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ