เศรษฐกิจไทยอ่อนแรง คอร์รัปชัน ฉุดความเชื่อมั่น แลนด์บริดจ์ ไม่เกิด หากไม่เดินหน้า EEC

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

    เศรษฐกิจไทยอ่อนแรง คอร์รัปชัน ฉุดความเชื่อมั่น แลนด์บริดจ์ ไม่เกิด หากไม่เดินหน้า EEC

    Date Time: 1 ก.พ. 2567 18:41 น.

    Video

    กลาง ธ.ค.ลุ้น! ฝนถล่มภาคใต้รอบใหม่ น้ำลดรอบนี้ต้องรีบทำอะไร? | Thairath Money Night Stand EP.26

    Summary

    “สมคิด” ชี้เศรษฐกิจไทยโตช้า ตามไม่ทันเพื่อนบ้าน ไทยปัญหาโครงสร้างฝังลึก ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นจากปัญหาคอร์รัปชัน ย้ำแลนด์บริดจ์โดนคุมกำเนิด หากไม่เดินหน้าอีอีซี

    Latest


    สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “จับชีพจรประเทศไทย” ในงานสัมมนา “ฝ่าเศรษฐกิจ ปีงูใหญ่ ชวนสร้างไทยให้ยั่งยืน” จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ว่า การจะจับชีพจรประเทศไทย เศรษฐกิจไทยต้องเข้าใจชีพจรโลกด้วย เพราะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกแยกกันไม่ออก ไทยพึ่งพิงโลกมากมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) อย่างมาก

    สำหรับเศรษฐกิจไทยนั้น เป็นเศรษฐกิจที่เติบโตช้ามากว่า 20 ปี ไม่ได้เติบโตเหมือนเดิมอีก เป็นปัญหาสั่งสมมายาวนาน วันนี้เศรษฐกิจไทยถือว่าอ่อนแอเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ประเทศอื่นเติบโตเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม และอินโดนีเซีย หรือมาเลเซียก็สามารถที่จะกลับมาใช้นโยบาย Multi Corridor เดินหน้าเศรษฐกิจ ส่วนอินเดียนั้นมีประชากรและแรงงานมาก มีการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นมาก แต่ไทยเสียความสามารถในการแข่งขันและกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสุดยอด และประชากรลดลงเรื่อยๆ 


    “การเติบโตของเศรษฐกิจไทยแต่ละปีต่อจากนี้ไม่ง่ายอีกต่อไป มีตัวเลขที่ออกมาว่าโตได้แค่ 1.8% ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ต้องเอาน้ำแข็งโปะหัวเพราะโตต่ำมาก วันนี้สินค้าไทยคืออะไร จุดแข็งของไทยคืออะไรเราจะแข่งกับใครได้ เราสามารถที่จะตอบตัวเองได้หรือไม่เพราะโลกเขาไปอุตสาหกรรมใหม่ และ AI แล้วแต่อุตสาหกรรมของเรา ยังกระจุกตัว มีบริษัทใหญ่ไม่กี่บริษัท และธุรกิจใหญ่ยังผูกกับคาร์บอนและฟอสซิลอยู่มาก” 

    ไทยปัญหาโครงสร้างฝังลึก กดไทยย่ำอยู่กับที่ตลอด 20 ปี


    ทั้งนี้ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาประเทศไทย ถือว่าเสียเวลาไปมาก และไม่ใช่ปัจจัยปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างเดียวแต่เป็นปัญหาทางการเมือง รัฐบาลแต่ละช่วงเวลาอาจจะรู้ว่าต้องทำนโยบายอะไร แต่ว่าการเมืองไม่สนับสนุนให้ทำได้เพราะการเมืองมุ่งแต่จะเอาชนะกัน แบ่งสี แบ่งค่าย เพื่อเอาฐานเสียงทุกรูปแบบ ก็นำไปสู่ต้องหาเสบียง หาเงิน ดัชนีคอร์รัปชันก็เลยพุ่งสูง เปิดโอกาสให้ทุนทางการเมืองเข้ามากลายเป็นรูปแบบธุรกิจ นโยบายจึงออกมาเป็นควิกวิน (Quick win) ระยะสั้น ไม่สามารถทำนโยบายระยะยาวได้ เรื่องที่เป็นนโยบายใหญ่ๆ กฎหมายสำคัญๆ ที่จะออกจากสภาฯ ก็ไม่ทำ การเมืองก็ใช้วิธีการปรองดองกันเพื่อผลประโยชน์เท่าที่ทำได้


    เร่งฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน แลนด์บริดจ์ไม่เกิด หากไม่เดินหน้า EEC 


    สำหรับนโยบายระยะยาว สมคิด ให้ความเห็นว่ายังต้องเดินหน้าโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้มีความต่อเนื่อง เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน แต่มีข่าวว่านักลงทุนบางรายจะไม่ทำต่อ ถ้าโครงการอีอีซีเดินหน้าไม่ได้ก็ไม่ต้องหวังอะไรกับโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะความเชื่อมั่นไม่เหลืออยู่แล้ว 


    วันนี้ไทยจึงต้องเร่งฟื้นฟู ความเชื่อมั่น ความเชื่อใจ และความเชื่อถือ ทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมทั้งฟื้นหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็ไปต่อยาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นตก เศรษฐกิจถดถอย ไม่ใช่ปัจจัยอื่น หากยังไม่ช่วยกันแก้ไข ก็จะพาประเทศไทยไปสู่ความเสี่ยงที่เรารู้แน่นอนว่าเราจะเดินไปสู่อะไร ตรงนี้ต้องคิดกันให้ดี


    ภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงหลัก ฉุดการเติบโตเศรษฐกิจโลก

    ในช่วงที่ผ่านมาโลกได้ผ่านสถานการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงมากมาย ทำให้การคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นไปได้ยาก การทำนายอนาคตให้แม่นยำเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้แต่ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังต้องมีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจแล้ว 2 ครั้งซึ่งบ่งบอกว่าความไม่แน่นอนมีสูงมาก 


    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประเทศต่างๆ รวมทั้งบริษัท องค์กรเอกชนจะต้องเผชิญ คือภาพใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือภาวะที่เศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลง ล่าสุด IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัวที่ 3.1% ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในรอบหลายปีซึ่งค่าเฉลี่ยของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ประมาณ 3.8% 


    เศรษฐกิจในภาพรวมเหมือนจะฟื้นตัวและมีปัจจัยบวกรออยู่ เช่น เศรษฐกิจจีนที่จะขยายตัวได้เพิ่มเติมที่ประมาณ 4.5% เศรษฐกิจญี่ปุ่นและอินเดียฟื้นตัวและเติบโตได้ดี โดยสาเหตุที่ IMF คาดการณ์จีดีพีโลกขยายตัวต่ำกว่าที่ควร มาจากความเสี่ยงหลักในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ที่ทั่วโลกต้องเผชิญซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงระดับสูงสุด (Top Risk) ของโลกในปัจจุบัน 

    หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกครั้งจะมีความเสี่ยงต่อเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจ เช่น นโยบายที่ทรัมป์จะหยุดสงครามยูเครนภายใน 1 วัน โดยการไปผูกไมตรีกับรัสเซีย หรือทรัมป์อาจประกาศให้อเมริกาถอนตัวจากสมาชิกป้องกันภัยแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซี่งก็จะทำให้ NATO อ่อนแอลงไปได้ ขณะที่การกลับมาของทรัมป์จะทำให้จีนและสหรัฐฯ ตึงเครียดมากขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นความเสี่ยงที่จะต้องเตรียมรับมือให้ดี


    Author

    กองบรรณาธิการ

    กองบรรณาธิการ