ประตูการค้าภูมิภาค ทุน "ต่างชาติ" ขอลงทุนในไทยพุ่ง 5 แสนล้าน จีน ครองแชมป์ อุตสาหกรรมรถ EV พีก

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

    ประตูการค้าภูมิภาค ทุน "ต่างชาติ" ขอลงทุนในไทยพุ่ง 5 แสนล้าน จีน ครองแชมป์ อุตสาหกรรมรถ EV พีก

    Date Time: 10 พ.ย. 2566 10:40 น.

    Video

    “สัมมากร” ไม่ใช่ “สรรพากร” บริษัทขายบ้านในยุค “ณพน” MD วัยหนุ่ม  | On The Rise

    Summary

    • ต่างชาติแห่ลงทุนในไทยพุ่ง BOI เผย 9 เดือน ขอรับสิทธิส่งเสริมลงทุน มากกว่า 1,500 โครงการ มูลค่ากว่า 5 แสนล้าน ขณะตัวเลข FDI จีนยังครองอันดับ 1 ตามด้วยสิงคโปร์ จีน สแกนอุตสาหกรรมดาวเด่น นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรนิกส์, เกษตรและแปรรูป พบ กลุ่มรถ EV มาแรง ล่าสุด เพิ่งอนุมัติ ฉางอัน, ไอออน และโฟตอน ตั้งโรงงานผลิตในไทย

    Latest


    เงินทุนต่างชาติ ยังคงไหลเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากภาพ บริษัทยักษ์ใหญ่หลายราย โดยเฉพาะผู้ผลิตรถ EV ขอรับการส่งเสริมการลงทุนไม่ขาดสาย 

    ขณะล่าสุด BOI เผยว่า ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวม ยอดบริษัทต่างชาติ เข้ามาขอรับ การส่งเสริมการลงทุน ทะลุแล้ว 5 แสนล้านบาทตอกย้ำ ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของอาเซียน ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของโลกหลายๆ ด้าน 

    มาตรการดูดลงทุนได้ผล ต่างชาติ ขอ BOI พุ่ง 5 แสนล้าน 


    "นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์" เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ มกราคม-กันยายน 2566 มีโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุน 1,555 โครงการ เพิ่มขึ้น 31% ด้วย มูลค่าเงินลงทุน 516,802 ล้านบาท 

    หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเปิดรับการลงทุนครั้งใหญ่ รวมทั้งการประกาศใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุนด้านต่างๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี ที่มีเป้าหมายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจใหม่เพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนมากขึ้น

    โดยตัวเลขดังกล่าว ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง รวมทั้งศักยภาพการเติบโตระยะยาวของไทย เห็นได้จากกลุ่มทุนต่างชาติหลายรายยังเดินหน้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง

    ตัวอย่าง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ 

    • บริษัท ซัมซุง
    • เคียวเซร่า เอวีเอ็กซ์
    • แม็กซิม อินทริเกรดเต็ด โปรดักส์
    • โตชิบา เซมิคอนดัคเตอร์
    • โซนี่ เทคโนโลยี  

    ตัวอย่าง กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 

    โดยผู้ผลิต 3 รายล่าสุดที่เพิ่งได้รับอนุมัติเมื่อเร็วๆ นี้ 

    • ฉางอัน 
    • ไอออน 
    • โฟตอน 

    ทั้งนี้ การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 366,188 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 

    1. อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีคำขอจำนวน 171 โครงการ เงินลงทุน 208,288 ล้านบาท
    2. อุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร มีคำขอจำนวน 213 โครงการ เงินลงทุน 55,778 ล้านบาท 
    3. อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มีคำขอจำนวน 151 โครงการ เงินลงทุน 42,200 ล้านบาท 

    ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า โอกาสค่ายรถEV ของจีน ที่ผลิตในไทย มีมาก หลังจาก EU เตรียม สอบรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีน ทำให้ผู้ผลิตต้องหาทางดิ้น โดยค่ายจีนในไทยไม่น้อยกว่า 70,000 คันนั้น มีโอกาสที่จะส่งออกไปตลาดยุโรปราว 10,000 คัน ซึ่งแม้จะยังน้อยหรือคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 8% ของยอดขาย BEV ค่ายจีนทั้งหมดในยุโรปที่อาจขายได้ไม่ต่ำกว่า 130,000 คันในปีหน้า แต่ก็จะนับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการส่งออก BEV จากไทยไปยุโรป  

    FDI จีน ครองแชมป์เบอร์ 1 ลงทุนทะลุ 9.7 หมื่นล้าน 

    สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) BOI เผยว่า มีจำนวน 910 โครงการ เพิ่มขึ้น 49% เงินลงทุน 398,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% 

    • อันดับ 1 โครงการจากจีน มีเงินลงทุนมากที่สุด 97,464 ล้านบาท 
    • อันดับ 2 สิงคโปร์ 80,261 ล้านบาท
    • อันดับ 3 ญี่ปุ่น 43,154 ล้านบาท 

    นอกจากนี้ ตามยุทธศาสตร์ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ และประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค ใน 9 เดือนที่ผ่านมา มีตัวเลขขอรับส่งเสริมประเภทนี้ จำนวน 93 โครงการ เงินลงทุน 2,582 ล้านบาท โดยมีบริษัทต่างชาติรายใหญ่เข้ามาลงทุนในกิจการนี้หลายราย เช่น 

    • บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี จำกัด จากประเทศจีน 
    • บริษัท อีคอร์เนส จำกัด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนอร์ดิก 

    "สำหรับประโยชน์ของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้มูลค่าการส่งออกของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี ใช้วัตถุดิบในประเทศกว่า 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี และสร้างงานกว่า 1 แสนตำแหน่ง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน และอาหารแปรรูป ซึ่งจะเป็นสาขาที่มีการจ้างงานมากที่สุด” 


    นอกจากนี้ หากพิจารณาจากสถิติการออกบัตรส่งเสริม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใกล้เคียงการลงทุนจริงมากที่สุด จะพบว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการออกบัตรส่งเสริม 1,299 โครงการ เงินลงทุนรวม 334,915 ล้านบาท ซึ่งโดยเฉลี่ยโครงการเหล่านี้จะทยอยลงทุนภายใน 6 เดือนถึง 2 ปีภายหลังได้รับบัตรส่งเสริม


    Author

    กองบรรณาธิการ

    กองบรรณาธิการ