ซอฟต์พาวเวอร์แบบไทย “เดอะ ครีเอเตอร์” หนังไซไฟระดับโลก ถ่ายทำในไทยสร้างงานกว่า 7.7 พันราย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ซอฟต์พาวเวอร์แบบไทย “เดอะ ครีเอเตอร์” หนังไซไฟระดับโลก ถ่ายทำในไทยสร้างงานกว่า 7.7 พันราย

Date Time: 27 ก.ย. 2566 10:59 น.

Video

ต้นทุนพุ่ง! นำเข้าสินค้าออนไลน์ เตรียมรับมือ ภาษีนำเข้า 1 บาท (ม.ค. 69)  | Thairath Money Night Stand EP.25

Summary

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่กำลังจะเข้าฉายในประเทศไทย ในวันที่ 28 กันยายน 2566 นี้ “เดอะ ครีเอเตอร์” (The Creator) จากค่าย ทเวนตี้ เซ็นทูรี สตูดิโอ ที่นำเสนอโลเคชั่นประเทศไทยในโลกอนาคต ได้รับ Cash Rebate 20% ของเงินลงทุนในประเทศไทยกว่า 450 ล้านบาท สร้างงานและกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจภาพยนตร์ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จำนวนมากกว่า 7,700 ราย

Latest


การถ่ายทำ “ภาพยนตร์” ต่างประเทศในประเทศไทย เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย รวมทั้งสามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปสู่สายตาผู้ชมภาพยนตร์ ทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว หรือซึมซับวัฒนธรรมไทยที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหาของภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยคือ “นางสาวสุวรรณ” (Suvarna of Siam) เมื่อปี 2465 

ทั้งนี้ปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายการเผยแพร่ Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก การถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหาร และลักษณะนิสัยคนไทย 

“The Creator” โลเคชั่นประเทศไทยในโลกอนาคต 

อย่างเช่นล่าสุดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่กำลังจะเข้าฉายในประเทศไทย ในวันที่ 28 กันยายน 2566 นี้ “เดอะ ครีเอเตอร์” (The Creator) จากค่าย ทเวนตี้ เซ็นทูรี สตูดิโอ ที่นำเสนอโลเคชั่นประเทศไทยในโลกอนาคต โดยเป็นเรื่องราวของสงครามในโลกอนาคตระหว่างมนุษย์ และกองกำลังปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ได้ส่งระเบิดนิวเคลียร์โจมตีโลกเพื่อทำลายมนุษยชาติ  

ซึ่งกำกับโดย Gareth Edwards จาก “Monsters”, “Godzilla” และ “Rogue One: A Star War Story” และนำแสดงโดย จอห์น เดวิด วอชิงตัน (Tenet), เจมมา ชาน (Eternals), เคน วาตานาเบะ (Inception), แอลลิสัน แจนนีย์ (I, Tonya), สเตอร์กิลล์ ซิมป์สัน (Dog), แดนนี แมคไบรด์ (Alien: Covenant) พร้อมนักแสดงเด็กหน้าใหม่ เมเดลีน ยูนะ วอยเลส เป็นต้น

โดย “The Creator” ได้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 17 มกราคม-5 พฤษภาคม 2565 จำนวน 212 ฉาก คิดเป็น 81.85% ของเรื่อง มีสถานที่ถ่ายทำมากกว่า 16 จังหวัด กระจายไปทุกภูมิภาคของประเทศไทย อาทิ สะพานอุตตมานุสรณ์ จังหวัดกาญจนบุรี ปราสาทสัจธรรม จังหวัดชลบุรี หรือแม้กระทั่ง สถานีกลางบางซื่อ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ที่มีการถ่ายทำในสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ถ่ายทำมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ทำให้สามารถสร้างงานและกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจท้องถิ่นที่เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ และเป็นการประชาสัมพันธ์สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของประเทศไทยที่สามารถรองรับกองถ่ายทำขนาดใหญ่ จนกลายเป็นฉากหลักของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว รวมทั้ง ได้มีการจำลองฉากต่างๆ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมงานชาวไทยที่สามารถเนรมิตฉากในโลกอนาคตให้สอดคล้องตามบทภาพยนตร์ที่คณะถ่ายทำต้องการ

ได้รับ Cash Rebate 20% ของเงินลงทุนในประเทศไทยกว่า 450 ล้านบาท 


ทั้งนี้ “The Creator ภาพยนตร์ต่างประเทศได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการ Incentive ของประเทศไทย” โดยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเงินคืน (Cash Rebate) จำนวน 20% ของเงินลงทุนในประเทศไทยมากกว่า 450 ล้านบาท สามารถสร้างงานและกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจภาพยนตร์ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จำนวนมากกว่า 7,700 ราย โดยค่าใช้จ่ายหลัก เช่น ค่าจ้างทีมงานชาวไทย จำนวน 42.6% ค่าเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำ 13.9% ค่ามาตรการโควิด 13.9% ค่าที่พัก 8.9% ค่าพาหนะ 8.9% เป็นต้น เรียกได้ว่ามาตรการ Incentive เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถดึงดูดให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศตัดสินใจเข้ามาลงทุนถ่ายทำในประเทศไทย

มาตรการสนับสนุนให้คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ 

สำหรับ กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ (TFO : Thailand Film Office) กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีภารกิจในการพิจารณา และส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ได้มีมาตรการสนับสนุนให้คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ผลิตเนื้อหาและถ่ายทำภาพยนตร์ให้ส่งเสริมและเผยแพร่ Soft Power ด้านต่างๆ 

โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. เป็นคณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศที่ประสงค์ขอรับสิทธิประโยชน์หลัก 15% (กรณีมีค่าใช้จ่ายในประเทศไทยมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป)

2. คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศประสงค์ขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม 5% การส่งเสริมการท่องเที่ยว เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ Soft Power รวมทั้งภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย โดยมีหลักเกณฑ์คือ เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศไทยมากกว่า 30% ของระยะเวลาการฉายภาพยนตร์ทั้งเรื่อง และมีเนื้อหาส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในด้านต่างๆ เช่น แสดงให้เห็นถึงงานเทศกาล/ประเพณีไทย ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงมนตร์เสน่ห์เอกลักษณ์และความงดงามของขนบธรรมเนียม ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ