สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เผย ข่าวดีล่าสุด ว่า “เงินเฟ้อ” ไทย อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือน ก.ค. 66 เพิ่มขึ้นเพียง 0.38% ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ เงินเฟ้อลง ก็มาจากการชะลอตัวของสินค้าในหมวดอาหาร เช่น เนื้อหมู และเครื่องประกอบอาหารที่มีราคาลดลง และราคาน้ำมันเดือน ก.ค. ปรับตัวลงเช่นกัน
ประกอบกับ เมื่อไปเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงส่งผลให้ “อัตราเงินเฟ้อทั่วไป” เฉลี่ย 7 เดือนแรกของไทย ปีนี้ (ม.ค.-ก.ค. 66) ขยับเพิ่มขึ้นราว 2.19% จนมีความเป็นไปได้ ว่ากระทรวงพาณิชย์ อาจใช้ตัวเลขนี้ ทบทวน กรอบอัตราเงินเฟ้อของปี 2566 ใหม่อีกครั้ง ในช่วงเดือน ก.ย. จากปัจจุบันที่คาดว่าเงินเฟ้อทั้งปี จะอยู่ในช่วง 1-2%
สำหรับมาตรการทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง กับการลดลงของ เงินเฟ้อ ยังมาจาก…
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่ม 0.25% (ปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.25%)
- ภาครัฐขยายเวลาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ถึง 20 ก.ค.ที่ผ่านมา และมีมติไม่ขยายเวลา แต่ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการคงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร ตั้งแต่ 21 ก.ค. 2566 เป็นต้นไป
- ภาครัฐลดค่าไฟสำหรับผู้ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยถึงเดือน ส.ค. 2566 และ ลดค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย ถึงเดือน สิงหาคม และ ลดค่าไฟฟ้าลงเป็น 4.70 บาท มีผลตั้งแต่ พ.ค.-ส.ค. 2566
จับตา 4 ตัวแปร “เงินเฟ้อ”
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ ระบุ ยังต้อง จับตาปัจจัยสำคัญ ที่จะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่
- ปัญหาภัยแล้ง
- ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
- ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
- การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า ส่งผลต่อการลงทุน การจ้างงาน การท่องเที่ยว และกำลังซื้อ
เงินเฟ้อไทย ต่ำติดอันดับโลก
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าสนใจ คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยล่าสุด เมื่อเทียบกับต่างประเทศ (ข้อมูลล่าสุด ณ เดือน มิ.ย. 66) ไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศ ที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ และต่ำที่สุดในอาเซียนจาก 7 ประเทศที่มีการประกาศตัวเลข
ได้แก่ ลาว, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และเวียดนาม
ขณะหากเทียบกับอีก 130 เขตเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีการประกาศตัวเลขออกมา พบว่า เงินเฟ้อไทย ต่ำเป็นอันดับ 7 ของโลก
10 ประเทศ ที่มีเงินเฟ้อต่ำสุดของโลก (ณ เดือน มิ.ย. 66) มีดังต่อไปนี้
- อันดับ 1 เซเชลส์ : เงินเฟ้อ -1.3%
- อันดับ 2 คอสตาริกา : เงินเฟ้อ -1.0%
- อันดับ 3 บูร์กินาฟาโซ : เงินเฟ้อ -0.7%
- อันดับ 4 ปานามา : เงินเฟ้อ -0.64%
- อันดับ 5 อาร์เมเนีย : เงินเฟ้อ -0.5%
- อันดับ 6 จีน : เงินเฟ้อ 0%
- อันดับ 7 ไทย : เงินเฟ้อ 0.23%
- อันดับ 8 จอร์เจีย : เงินเฟ้อ 0.6%
- อันดับ 9 โอมาน : 0.7%
- อันดับ 10 มาเก๊า : 0.8%
10 ประเทศ ที่มีเงินเฟ้อสูงสุดในโลก มีดังต่อไปนี้
- อันดับ 1 เวเนซุเอลา : เงินเฟ้อ 404%
- อันดับ 2 เลบานอน : เงินเฟ้อ 254%
- อันดับ 3 อาร์เจนตินา : เงินเฟ้อ 116%
- อันดับ 4 เซียร์ราลีโอน : เงินเฟ้อ 44.81%
- อันดับ 5 อิหร่าน : เงินเฟ้อ 42.6%
- อันดับ 6 กานา : เงินเฟ้อ 42.5%
- อันดับ 7 ตุรกี : เงินเฟ้อ 38.21%
- อันดับ 8 อียิปต์ : เงินเฟ้อ 35.7%
- อันดับ 9 ปากีสถาน : เงินเฟ้อ 29.4%
- อันดับ 10 เอธิโอเปีย : เงินเฟ้อ 29.64%