นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้คงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 32 บาท/ลิตร โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนอยู่ที่ 11.35 บาท/ลิตร เพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพให้ประชาชน จากราคาจริงอยู่ที่ 38 บาท/ลิตร ภายใต้ราคาน้ำมันตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง ล่าสุด วันที่ 6 พ.ค.65 อยู่ที่ 160.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
“จากสภาพคล่องที่กองทุนน้ำมันมีอยู่ 12,932 ล้านบาท ยังเพียงพอดูแลราคาน้ำมันในประเทศ หลังรัฐบาลขึ้นราคาน้ำมัน ดีเซลแบบมีการอุดหนุนครึ่งหนึ่งของราคาที่ปรับขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งประเมินทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก มีแนวโน้มลดลง หลังยุโรปผ่านพ้นฤดูหนาว กบน.จึงให้คงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ไว้ที่ 32 บาท/ลิตร ส่วนสถานะกองทุนน้ำมัน ล่าสุด วันที่ 8 พ.ค ติดลบ 66,681 ล้านบาท เป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 33,423 ล้านบาท”
นอกจากนี้ กบน.ได้ติดตามสงครามยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลต่อราคาน้ำมันตลาดโลก เพื่อประกอบการพิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเป็นรายสัปดาห์อีกครั้งในวันที่ 16 พ.ค.นี้ หากในแต่ละรอบสัปดาห์ ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงจะปรับเงินอุดหนุนและเพดานราคาลงตาม “ส่วนการกู้เงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้อุดหนุนราคาน้ำมัน ขณะนี้ ธนาคารออมสินและกรุงไทย ยื่นข้อเสนอปล่อยกู้มาแล้ว น่าจะชัดเจนภายในเดือน พ.ค.นี้ และมีเงินเข้ากองทุนเดือน มิ.ย.ได้ตามแผน”
ส่วนนายธีรัชย์ อัตนวานิช รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กองทุนน้ำมันได้เจรจากับธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง รวมถึงธนาคารออมสิน และกรุงไทย คาดจะได้ข้อสรุปในเดือน พ.ค.นี้ จากนั้นจะทยอยกู้เงิน เพื่อเสริมสภาพคล่อง เพราะสถานะของกองทุนติดลบจากการอุดหนุนราคาพลังงาน แต่จากการที่รัฐบาลยกเว้นเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซล 3 เดือน ทำให้กองทุนบริหารสภาพคล่องได้ระดับหนึ่ง แต่ยังต้องมีวงเงินเสริมสภาพคล่องกรณีราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นอีก และกรณีสิ้นสุดลดภาษีดีเซลวันที่ 20 พ.ค.นี้ สำหรับวงเงินที่จะขอกู้ 30,000 ล้านบาท สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้บรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้ปีงบ 65 แล้ว ซึ่งกองทุนจะกู้เต็มวงเงิน แต่จะทยอยเบิกจ่ายเท่าที่จำเป็น.