อคส.ไม่พ้นทุจริตจำนำข้าว ป.ป.ท.ฟ้องแล้ว 80 คดี ส่งต้นสังกัดฟันวินัยซ้ำ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

อคส.ไม่พ้นทุจริตจำนำข้าว ป.ป.ท.ฟ้องแล้ว 80 คดี ส่งต้นสังกัดฟันวินัยซ้ำ

Date Time: 19 เม.ย. 2565 07:44 น.

Summary

  • คน “อคส.” หนาว “ป.ป.ท.” ส่งคดีทุจริตจำนำข้าวเปลือก ฟ้องศาลแล้ว 80 คดีจากทั้งหมด 892 คดี ไม่นับรวมคดีที่คน “อ.ต.ก.–เจ้าของโกดัง-เซอร์เวเยอร์” เอี่ยวอีกจำนวนมากรวมมูลค่าเสียหายนับแสนล้านบาท

Latest

เปิดบัญชีง่ายเกินจริง! ธปท.ลุยสอบพนักงานแบงก์ เอี่ยวบริการลับ เปิดบัญชีให้ “ชาวจีน”

คน “อคส.” หนาว “ป.ป.ท.” ส่งคดีทุจริตจำนำข้าวเปลือก ฟ้องศาลแล้ว 80 คดีจากทั้งหมด 892 คดี ไม่นับรวมคดีที่คน “อ.ต.ก.–เจ้าของโกดัง-เซอร์เวเยอร์” เอี่ยวอีกจำนวนมากรวมมูลค่าเสียหายนับแสนล้านบาท พร้อมส่งรายชื่อให้ต้นสังกัดฟันโทษวินัย และคดีอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลชุดที่ผ่านๆมา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ส่งฟ้องศาล และศาลอยู่ระหว่างการพิจารณานั้นมีมากถึง 80 สำนวนคดี จากทั้งหมด 892 สำนวนคดี ซึ่งยังไม่นับรวมคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และภาคเอกชน ทั้งที่เป็นเจ้าของโกดังที่รัฐเช่าเพื่อฝากเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล และกลุ่มเซอร์เวเยอร์ ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวในสต๊อกอีกหลายสำนวนคดี รวมมูลค่าความเสียหายที่รัฐจะต้องเรียกคืนสูงถึงหลักแสนล้านบาท

สำหรับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ อคส. ที่ ป.ป.ท.ตั้งข้อกล่าวหากระทำทุจริตและส่งฟ้องศาลไปแล้วนั้น มีจำนวนมากกว่าร้อยคน ซึ่งเป็นการกระทำความผิดในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 54/55, นาปรัง ปี 55 และนาปีปี 55/56 และที่ผ่านมา ป.ป.ท.ได้ทยอยส่งรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาให้ อคส.ดำเนินการทางวินัยและอาญาแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก.ก็ได้ส่งรายชื่อให้ผู้บริหาร อ.ต.ก.ดำเนินการแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกัน ยังได้ส่งรายชื่อผู้กระทำผิดให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางทางการเงินด้วย

ส่วนกรณีที่ อคส.ส่งเรื่องให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีและนาปรัง ตั้งแต่ปี 54-57 นั้น ล่าสุด อยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลปกครองกลาง 1,136 คดี ศาลปกครองสูงสุด 4 คดี จากทั้งหมด 1,143 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 494,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ อคส.ยังได้ฟ้องร้องดำเนินคดีเจ้าของคลังเก็บข้าวสารในสต๊อกรายหนึ่ง เพราะมีการยึดหน่วงข้าว โดยไม่ยอมให้ผู้ชนะประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐในช่วงที่ผ่านมา มารับมอบข้าว (ขนข้าวออกจากคลัง) คิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่ทำให้รัฐเสียโอกาสในการขายข้าวประมาณ 1,300 ล้านบาท ส่วนข้าวในสต๊อกรัฐลอตสุดท้ายอีกราว 200,000 ตัน ที่อยู่ในความดูแลของ อคส.นั้น อคส.ตั้งเป้าหมายจะประมูลให้หมดทุกเมล็ดภายในเดือน ก.ย.65 แต่จนถึงขณะนี้ ไม่มั่นใจว่า จะเปิดประมูลได้ตามเป้าหมายหรือไม่ เนื่องจากต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก่อน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการประชุม นบข.แต่อย่างใดหากไม่สามารถเปิดประมูลได้จะทำให้การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกต้องล่าช้าออกไปอีก และจะยิ่งทำให้รัฐขาดทุนมากขึ้น เพราะข้าวเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ และขายได้ราคาต่ำลงอีก

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส.กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ อคส.จะลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับรัฐวิสาหกิจของจีนที่เขตหนานซา เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง เพื่อร่วมกันจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของไทยในจีน และเปิดให้ผู้ประกอบการของไทยเช่าฝากเก็บสินค้าก่อนกระจายไปยังเมืองต่างๆของจีน รวมถึงจะหาพันธมิตรที่เป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ของจีน นำสินค้าของไทยไปจำหน่ายในจีนด้วย เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางขายสินค้าของไทยในตลาดจีน และเป็นการสร้างรายได้ให้กับ อคส.

“คลังกระจายสินค้าที่จีนจะเป็นแห่งที่ 2 ที่ อคส.ได้ออกไปจัดตั้งในต่างประเทศต่อจากเมียนมา ที่เมื่อเร็วๆนี้ อคส.ได้ลงนามกับบริษัท Maha Shwe Ngwe จำกัด จากเมียนมา เพื่อร่วมกันหาช่องทางลงทุนสร้างคลังกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค ไทยในเมียนมาไปแล้ว และยังมีแผนจะตั้งศูนย์กระจายสินค้าแบบเดียวกันนี้ในประเทศอื่นๆอีก เช่น อินเดีย และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ