จ่อปิดกิจการ-ผันตัวไปทำธุรกิจอื่น ดัชนีความเชื่อมั่นที่พักแรมดิ่งเหว

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

จ่อปิดกิจการ-ผันตัวไปทำธุรกิจอื่น ดัชนีความเชื่อมั่นที่พักแรมดิ่งเหว

Date Time: 8 ก.ย. 2564 07:10 น.

Summary

  • ชี้ว่าผู้ประกอบการที่พักแรมยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด สะท้อนจากอัตราการเข้าพักยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มปรับตัวแย่ลง

Latest

อดทนจนกว่าจะแลนด์ World Bank มองบวก เศรษฐกิจไทยโตตามศักยภาพได้ ภายในปี 2571

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยผลการสำรวจ “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม” ประจำเดือน ส.ค.64 จัดทำโดยสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 234 แห่ง โดยเป็นโรงแรมสถานกักกันทางเลือก (ASQ) 14 แห่ง และฮอสพิเทล 5 แห่ง ระหว่าง 13-28 ส.ค.ที่ผ่านมา ชี้ว่าผู้ประกอบการที่พักแรมยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด สะท้อนจากอัตราการเข้าพักยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มปรับตัวแย่ลง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีสภาพคล่องลดลงมาก หากสถานการณ์โควิดยืดเยื้อกว่าที่คาด พบว่า 52% เลือกปิดกิจการชั่วคราว ขณะที่ 9% อาจตัดสินใจปิดกิจการถาวร ส่วน 30% จะชะลอลงทุนออกไปก่อน และ 9% ปรับตัวไปทำธุรกิจอื่น

“สถานะกิจการของโรงแรมจำนวน 215 แห่ง ไม่รวมโรงแรมที่เป็น ASQ และฮอสพิเทล เปิดกิจการปกติ 48.4% เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค.ที่เปิดกิจการ 40.1% จากโรงแรมในภูเก็ตที่เปิดรับนักท่องเที่ยว และโรงแรมในกรุงเทพฯที่ลูกค้าพักระยะยาวเป็นหลัก ขณะที่มีโรงแรมเปิดกิจการบางส่วนตั้งแต่ 50% ขึ้นไป 9.8% ลดลงจากเดือน ก.ค.ซึ่งอยู่ที่ 11% และที่เปิดกิจการบางส่วนแต่ไม่เกิน 50% มีสัดส่วน 25.1% ลดลงจากเดือน ก.ค.ซึ่งอยู่ที่ 27.2% และปิดกิจการชั่วคราว 16.7% ลดลงจากเดือน ก.ค.ซึ่งอยู่ที่ 21.7% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในไตรมาส 4 นี้”

อย่างไรก็ตาม พบว่าส่วนใหญ่ 58% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด มีรายได้ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับก่อนเกิดวิกฤติโควิด ด้านโรงแรมที่มีรายได้กลับมา 11-30% มีสัดส่วน 17%, รายได้กลับมา 31-50% มีสัดส่วน 6%, รายได้กลับมา 51-70% มีสัดส่วน 7% และรายได้กลับมามากกว่า 70% มีสัดส่วน 12% โดย 70% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และ 65% มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน โดยครึ่งหนึ่งมีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน กระจายอยู่ทุกภูมิภาค ด้านอัตราการเข้าพักของเดือน ส.ค.เฉลี่ยอยู่ที่ 10.6% ทรงตัวจากเดือน ก.ค. โดยหากไม่รวมกลุ่มโรงแรมที่รับลูกค้าตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และลูกค้าที่เข้าพักระยะยาวเป็นหลัก อัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7.5% เท่านั้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ