นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบของประชาชนในการติดต่อราชการเพื่อขออนุญาตกับหน่วยงานรัฐ จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาต การรับแจ้ง การรับชำระภาษีหรือเงินอื่นใด ขยายระยะเวลาการต่ออายุใบอนุญาต การแจ้ง การชำระภาษีที่บุคคลต้องชำระให้แก่หน่วยงานรัฐออกไปจนถึง 31 ธ.ค.2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยให้งดหรือยกเว้นค่าปรับ เบี้ยปรับ เงินเพิ่มหรือเงินอื่นใดที่กฎหมายกำหนดในกรณีดำเนินการล่าช้า
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร.รายงานว่า กระบวนงานที่ส่งผลให้เกิดภาระค่าปรับ เบี้ยปรับ ในกรณีดำเนินการล่าช้า หรือการเสียสิทธิในการกระทำของประชาชน มี 311 กระบวนงาน 3 ประเภท คือ 1.การขอต่ออายุใบอนุญาต 295 กระบวนงาน เช่น ใบขับขี่ ใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว ใบอนุญาตเกี่ยวกับยา 2.การชำระภาษีหรือเงินอื่นใด 11 กระบวนงาน เช่น ภาษีรถ ภาษีป้าย เงินสมทบกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน 3.การรับแจ้ง 5 กระบวนงาน เช่น การรับแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว กรณีอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน เป็นต้น
ครม.ยังได้เห็นชอบตามมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญากับภาครัฐ อันเกิดจากโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญา โดยให้สัญญาที่ได้ลงนามก่อนวันที่ 26 มี.ค.2563 ที่ยังไม่ได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือได้มีการส่งมอบงานงวดสุดท้ายก่อนการประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยังไม่ได้มีการตรวจรับพัสดุ ให้คิดค่าปรับในอัตรา 0% แต่กรณีที่มีค่าปรับที่เกิดขึ้นแต่ไม่ได้เข้าข่ายเหตุสุดวิสัยจากโควิด-19 หากค่าปรับมีมูลค่าเกินกว่า 25% ของวงเงินค่าพัสดุหรือค่าจ้างจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ ส่วนสัญญาที่ลงนามหลังวันที่ 26 มี.ค.2563 และยังไม่ได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือได้ส่งมอบงานงวดสุดท้ายก่อนประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยังไม่ได้ตรวจรับพัสดุ ให้คิดค่าปรับ 0% เช่นกัน.