สูตรความสำเร็จ "มะม่วงวรพร" เจ๊งจากบ่อกุ้ง โดนก๊อปสินค้า สู่ธุรกิจร้อยล้าน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สูตรความสำเร็จ "มะม่วงวรพร" เจ๊งจากบ่อกุ้ง โดนก๊อปสินค้า สู่ธุรกิจร้อยล้าน

Date Time: 5 มี.ค. 2564 17:07 น.

Video

Google Maps ได้อะไร ? ทำไมให้คนใช้ฟรี ทั้งที่ต้นทุนมหาศาล | Digital Frontiers EP.34

Summary

  • เศรษฐีป้ายแดง "ชัยรัตน์ โสธรนพบุตร" เผยเส้นทางธุรกิจ "มะม่วงวรพร" มูลค่านับร้อยล้าน เจ๊งจากบ่อกุ้ง โดนก๊อปสินค้า ฝ่ามรสุมจนมีวันนี้

Latest


เศรษฐีป้ายแดง "ชัยรัตน์ โสธรนพบุตร" เผยเส้นทางธุรกิจ "มะม่วงวรพร" มูลค่านับร้อยล้าน เจ๊งจากบ่อกุ้ง โดนก๊อปสินค้า ฝ่ามรสุมจนมีวันนี้


วันที่ 5 มีนาคม 2564 รายการ "เศรษฐีป้ายแดง" พาไปพูดคุยกับ คุณชัยรัตน์ โสธรนพบุตร เจ้าของบริษัทแปรรูปผลไม้วรพร จำกัด ผู้แปรรูปผลไม้อันดับ 1 ของประเทศไทย มูลค่าธุรกิจนับร้อยล้าน เปิดเผยว่า สูตรดองมะม่วงได้มาจากรุ่นเตี่ย (คุณพ่อ) อพยพมาจากแต้จิ๋ว เมืองจีน มาอยู่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเมืองผลไม้ เลยนำสูตรดองผัก มาดองผลไม้ขาย สารพัดชนิดเลยไม่ว่าจะเป็นมะม่วง มะขาม มะกอก ผลไม้รสเปรี้ยวแทบทุกอย่างเอามาดองขายได้ แต่มะม่วงจะเยอะสุด เพราะที่ฉะเชิงเทราปลูกกันมาก และขายดี สมัยรุ่นเตี่ย แม่ดองใส่ถุงขายเรียกว่า "ผูกพวง" ขายถุงละ 25 สตางค์

ส่วนตนเองเป็นอาจารย์สอนเคมีที่ราชมงคลภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.ขอนแก่น แต่อยากหารายได้เสริมจึงดองมะม่วงใส่โหลขายที่ขอนแก่น กระทั่งเป็นครูมา 10 กว่าปี เตี่ยกับแม่ทำงานไม่ไหว เลิกกิจการ ขายอุปกรณ์ต่างๆ นำเงินมาแบ่งลูกๆ ตนได้เงินมา 1 ล้านบาท จึงนำไปลงทุนซื้อที่ดิน คิดว่าจะลาออกมาเลี้ยงกุ้งขาย เพราะยุคนั้นใครทำบ่อกุ้งรวย

รอบแรกลงทุนไป 8 แสน เตรียมทำบ่อกุ้ง ปรากฏว่าเป็นที่ติดป่าชายเลนทำบ่อกุ้งไม่ได้ จึงต้องขายที่ดินต่อให้คนอื่นไป โชคดีขายต่อได้กำไร จากเดิมซื้อมา 8 แสน ขายต่อได้ 1.4 ล้าน แต่ใจยังอยากเลี้ยงกุ้งจึงไม่เช่าที่ใหม่ แต่เลี้ยงได้ 20 วัน เจ๊งไป 2 แสน กุ้งตายยกบ่อ จึงนอนสลบหมดแรงเป็นอาทิตย์ไม่รู้จะทำอะไรต่อเลย

หลังจากนั้นก็กลับมาทบทวนตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเจ๊ง จนมานึกถึงผลไม้ดองสูตรของเตี่ยว่าอร่อย เลยตัดสินใจว่า ผลไม้ดองนี่แหละคืออาชีพของเรา หลังจากนั้นก็ไปซื้อโอ่งราชบุรีมา 80 ลูก มาดองมะม่วง ปรากฏว่า แค่ 3 เดือนแรกก็ขายหมด เรียกว่าขายดีเลยก็คิดว่ามาถูกทางแล้ว และได้ขายตามตลาดอยู่ 2-3 ปี จึงมีความคิดทำแบรนด์ของตัวเอง จึงนำชื่อลูก 2 คน คือ วราภรณ์ กับ ชัยพร มารวมกัน ตั้งเป็นชื่อใหม่ว่า "วรพร" แต่ตอนหลังมาคิดได้ว่า ไม่น่าตั้งชื่อนี้เลย เพราะคนจำยาก ก็เป็นบทเรียนไป แต่ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อแล้ว เพราะชื่อนี้คนติดแล้ว

คุณชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า ขายไปสักพัก ก็มีหม่อมถนัดศรีมาชิม เลยได้เครื่องหมายเชลล์ชวนชิม ปั๊มเชลล์ก็เอาไปวางขายให้ สักพักก็มีการติดต่อกับทางซีพี จากนั้นก็ได้วางขายในร้านเซเว่น กลายเป็นก้าวกระโดดสำคัญจากสินค้าตลาดสู่แบรนด์ระดับประเทศ

พอแบรนด์เราเริ่มโตแล้ว ก็เริ่มคิดจะขยายไปตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะบุกตลาดเมืองจีน รวมทั้งบุกตลาดเซี่ยงไฮ้ สมัยนั้นซีพีทำห้างเล็กๆ ที่อยู่แถวหอคอยเซี่ยงไฮ้ ก็จะทำชั้น 5 ของห้าง เป็นชั้นสินค้าไทย คิดค่าเช่าถูกๆ เราก็เอาสินค้าไปขาย ต่อมาชั้นนั้นถูกยุบไป ก็ต้องไปหาที่วางสินค้าขายใหม่ ค่าเช่าก็แพงขึ้นเป็นเท่าตัว บวกกับภาษีเมืองจีนที่โหดมาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) 17% ภาษีนำเข้าอีก 29% จากมะม่วงดองของกินบ้านๆ ของไทย พอไปวางขายที่จีนกลายเป็นของราคาแพงเลย นึกง่ายๆ จากของราคา 10 บาท กลายเป็น 100 บาท

แต่ตอนนั้นคนจีนแถบเซี่ยงไฮ้ก็มีความสนใจ ก็เลยมั่นใจว่าขายได้ พอห้างบอกมาว่าสนใจเอาสินค้าไปวางขายสาขาต่างๆ อีก 20 กว่าสาขามั้ย ก็ตกลงเลย มั่นใจมาก ปรากฏว่า ภาษีก็ต้องเสีย ค่าขนส่งจากไทยไปจีนก็ต้องเสีย แถมกว่าจะได้ เงินต้องรอให้ของเราขายได้ถึงจะมียอดรายได้ ก็มีแต่รายจ่าย ตอนนั้นหมดเงินไปเป็นล้านๆ จนคิดว่าไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องหยุด

แต่ยังไม่เข็ด หลังจากผิดหวังจากเซี่ยงไฮ้ ก็เอาใหม่ บุกกวางโจว ไปทำตลาดที่นั่นโชคดีเป็นช่วงตรงกับจีนมีงานเอ็กซ์โป ก็ไปออกบูธ ไปทำตลาด จนสินค้าเริ่มเป็นที่รู้จัก จนขายดีขึ้นเรื่อยๆ จนพีคสุดๆ ทำไม่พอขาย เรียกว่า พอมีออเดอร์มาต้องบอกให้เราสินค้าเรา 2 เดือนถึงจะทำส่งให้ได้ ขายดีขนาดนั้นเป็นปีๆ เลย

ต่อมาก็เริ่มรู้สึกว่า ยอดขายทำไมตกลงเรื่อยๆ แบบผิดปกติ จึงไปเดินตลาดที่นั่น ปรากฏว่า มีคนทำของเลียนแบบ เอาชื่อวรพรของเราไปดัดแปลง เปลี่ยนโลโก้รูปหมีเป็นรูปช้าง อะไรแบบนี้แถมตัดราคาขายด้วย รสชาติก็สู้เราไม่ได้ ลูกค้าที่มาซื้อกินแบบไม่ได้สังเกตก็จะ เอ๊ะ ไม่เห็นอร่อยเลย ยี่ห้อนี้ทำให้ยอดขายเมืองจีนตก

ตนจึงไปติดต่อร้านต่างๆ ที่วางของเราขาย บอกเขาว่า อย่าไปแข่งราคากับเขา เราจะช่วยซัพพอร์ตเงินส่วนต่างให้ เพราะเรามั่นใจว่าของเรารสชาติดีกว่าคุณภาพดีกว่า ให้ลูกค้าพิสูจน์ด้วยรสชาติ ตอนหลังก็ค่อยๆ กู้ตลาดจีนคืนมาได้ ถึงวันนี้ก็ได้คืนมา 70% แล้ว

นอกจากนำมะม่วงวรพรโกอินเตอร์แล้ว "วรพร" ยังรับจ้างผลิตให้ต่างประเทศด้วย อย่างออเดอร์ล่าสุด มาจากอังกฤษ เขาให้โจทย์มาว่า อยากได้มะม่วงกวนที่มีเนื้อมะม่วงเป็นชิ้นๆ ผสมอยู่ด้วย ให้รสออกมาเปรี้ยวๆ หวานๆ เราก็เอาโจทย์มาพัฒนาจนได้มะม่วงกวน ต้นแบบ

คุณชัยรัตน์ กล่าวว่า ในช่วงฤดูมะม่วง เราต้องรับซื้อมะม่วงจากทั่วประเทศเลย เพื่อมาดองเค็มเตรียมไว้เป็นสต๊อกวัตถุดิบในการแปรรูปให้เพียงพอกับออเดอร์ ปีนึงๆ ต้องใช้มะม่วงกว่า 5,000 ตัน จนมาช่วงโควิด-19 ยอมรับว่ายอดขายตกนิดหน่อย แต่ไม่ได้กระทบรุนแรงอะไร เพราะสินค้าเราไม่ได้เป็นของแพง เศรษฐกิจขึ้นหรือตก จะไม่ได้กระทบยอดขายมาก ซึ่งเราจะพยายามหาอะไรใหม่ๆ มาขาย ไม่หยุดนิ่ง ทุกวันนี้ที่โรงงานจะมีแผนกค้นคว้ารสชาติสินค้าใหม่ๆ โดยรับหน้าที่ชิมเอง เพื่อติชมรสชาติ ค้นหารสชาติที่เราอยากได้

สำหรับ รายการ "เศรษฐีป้ายแดง" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และติดตามชมย้อนหลังได้ทาง YouTube ช่อง Thairath.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ