โครงการ คนละครึ่งเฟส 2 เตรียมเพิ่มปุ่มในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เพื่อให้ผู้ที่มีสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิม กดยืนยันรับเงิน 500 บาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 30/2563 โดยอนุมัติให้กระทรวงการคลังดำเนินโครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 และ 2. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2
สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานรากให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 ผ่านการบริโภคจับจ่ายใช้สอยของประชาชน โดยภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน เช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่งในปัจจุบัน
นอกจากนี้ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ได้แบ่งกลุ่มผู้ใช้สิทธิ์เป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ผู้ได้รับสิทธิ์เดิม ไม่เกิน 10 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์วงเงินสนับสนุนจากรัฐเพิ่มเติมคนละ 500 บาท ในวันที่ 1 ม.ค. 2564 ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินตามสิทธิ์ที่มีอยู่เดิม 3,000 บาท เท่ากับจะมีวงเงินรวม 3,500 บาท สามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 และ 2. ผู้ลงทะเบียนใหม่ ไม่เกิน 5 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์วงเงินสนับสนุนจากรัฐคนละ 3,500 บาท สำหรับใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 2564
ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ว่า จะมีการเพิ่มปุ่มในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ให้ผู้ที่มีสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิมกดยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 และสำหรับกลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่ 5 ล้านคน กระทรวงการคลังจะเปิดให้ลงทะเบียนด้วยวิธีการเดิม ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป ในระหว่างเวลา 06.00 น. - 23.00 น. ซึ่งผู้ลงทะเบียนต้องมีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่ใช่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่เคยถูกตัดสิทธิ์จากการไม่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะแรก สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ได้ใหม่ นอกจากนี้ ขอย้ำว่าผู้ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะแรกและระยะที่ 2 จะไม่สามารถใช้สิทธิ์มาตรการช้อปดีมีคืนได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่จำแนกกลุ่มเป้าหมายของโครงการและมาตรการต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง