โสภณ นำทีมคณะกรรมาธิการคมนาคมฯ ลุยตรวจสถานีกลางบางซื่อ

โสภณ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคมฯ ลุยตรวจสถานีกลางบางซื่อ ระบุ การรถไฟต้องจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้มีประสิทธิภาพ ต้องสร้างรายได้ชดเชยต้นทุนการเดินรถ และทำระบบเชื่อมต่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 63 นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานีกลางบางซื่อ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน

นายโสภณ ระบุว่า ความคืบหน้าในการก่อสร้างในส่วนของสถานีกลางบางซื่อ คืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตสำคัญ 2 ประเด็น คือ 1 เนื่องจากพื้นที่ของสถานีกลางบางซื่อนั้นเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ใช้สอยหลายแสนตารางเมตร ในส่วนนี้ขอให้การรถไฟฯ ดูแลการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อให้นำรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์นี้ มาบริหารโครงการให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหาการขาดทุนตามา

ส่วนที่ 2 ก็ขอให้ดูแลเรื่องของการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้ประโยชน์สูงสุด ตั้งการเชื่อมต่อกลับรถไฟฟ้าเส้นอื่น รถเมล์โดยสารและรถโดยสารทางไกล ของ บขส.จะต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อคืบหน้าประมาณ 99.8% โดยปัจจุบันเหลือเพียงการตกแต่งภายในอีกเล็กน้อย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนมีนาคม 2564 และทดสอบเดินรถเสมือนจริง ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการโดยไม่เก็บค่าโดยสาร ก่อนจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2564

โดยก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ จะมีการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และร่วมทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน จากสถานีบางซื่อไปยังสถานีดอนเมืองด้วย

ทั้งสภาพพื้นที่ของสถานีกลางบางซื่อปัจจุบัน ภาพรวมมีพื้นที่กว่า 2.6 แสนตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยชั้นใต้ดิน เป็นพื้นที่จอดรถ, ชั้น 1 ซึ่งเป็นจำนวนจุดจำหน่ายตั๋วโดยสาร ชั้น 2 ของอาคารจะเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกับการจัดพื้นที่เชิงพาณิชย์ของท่าอากาศยานชั้นนำ และชั้น 3 จะเป็นชานชาลา จุดสิ้นสุดของโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน

รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการรถชานเมืองสายสีแดง และโครงการรถไฟทางไกลอื่นๆ โดยตามแผนของการรถไฟ เมื่อมีการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อแล้ว ก็จะมีการลดการใช้พื้นที่ของสถานีรถไฟกรุงเทพฯ หรือหัวลำโพงลง เพื่อลดการเดินทางเข้าออกเมืองชั้นใน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองด้วย