โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เปิดให้ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนในเว็บ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าถึงธุรกิจการท่องเที่ยวโดยตรง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19
โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนในเว็บ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าถึงธุรกิจการท่องเที่ยวโดยตรง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19
โดยรัฐบาลได้สนับสนุนค่าที่พักโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน แต่ไม่เกินวงเงิน 3,000 บาท จำกัดสิทธิ์คนละไม่เกิน 5 ห้อง หรือ 5 คืน และเมื่อจองที่พักแล้วไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้ ระยะเวลาใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ 15 ก.ค.-31 ต.ค.63
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนคูปองอาหาร และท่องเที่ยวมูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืนให้กับประชาชนเมื่อเช็กอินโรงแรม จะได้รับคูปองวันละ 1 ครั้ง ซึ่งสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนจ่าย 60% รัฐช่วย 40% ผ่านการตัดเงินคูปอง รวมทั้งการสนับสนุนค่าโดยสารเครื่องบิน 40% ของราคาค่าโดยสารแต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน
ทางกระทรวงการคลังระบุว่า ได้สนับสนุนค่าที่พักโรงแรมไว้จำนวน 5 ล้านห้องและอาจจะต่อยอดไปเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวในวันธรรมดาให้ธุรกิจในท้องถิ่นให้เห็นผลเร็วที่สุด สำหรับ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้มากกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ 0.2–0.3% อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ คือการกระจายของเม็ดเงินลงไปสู่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยไม่กระจุกตัว
เมื่อเข้าไปดูในเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว การลงทะเบียนง่ายมากและรวดเร็ว พบว่ามีโรงแรม รีสอร์ตและร้านอาหารทั่วประเทศแบ่งเป็นโรงแรมมาลงทะเบียน 4,000 แห่งและร้านอาหารลงทะเบียน 10,000 ร้าน หากยังไม่มีความคิดว่าจะไปเที่ยวเพื่อชาติที่ไหนดี ในเว็บมีข้อมูลแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวให้ด้วย
นอกจากนี้ทางโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการยังได้จัดโปรโมชันและสิทธิพิเศษเพิ่มเติมเข้าไปอีกเช่นโรงแรมในเครือไมเนอร์ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น ห้องพักราคาพิเศษ ส่วนลดอาหาร เครื่องดื่ม และสปา สิทธิ์อัปเกรดห้องพักในกรณีที่มีห้องว่าง สิทธิ์เช็กอิน เช็กเอาต์ ก่อนและหลังเวลาปกติ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าพักฟรี บริการรถรับส่งสนามบิน เป็นต้น
สำหรับโรงแรมในเครือเอ็มบีเคที่มี 6 แห่ง ได้แก่ โรงแรมลยานะรีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท, โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส, ทินิดี โฮเต็ล แอท ระนอง, ทินิดี กอล์ฟ รีสอร์ท แอท ภูเก็ต และ ทินิดี โฮเต็ล แอท บางกอก กอล์ฟ คลับ ได้จัดโปรโมชันห้องพักพร้อมบริการอื่นๆของโรงแรมในเครือ 6 แห่ง ราคาห้องพักเริ่มต้นสุทธิเพียง 1,350 บาท ซึ่งค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของโรงแรม
ขณะที่สายการบินเข้าร่วมโครงการนี้ทั้งไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์ และไทยไลอ้อนแอร์ พร้อมเปิดให้จองและเริ่มเดินทางในวันที่ 18 ก.ค.โดยต้องเป็นเส้นทางบินที่มีต้นทางหรือจุดหมายปลายทางใกล้กับสถานที่ตั้งของโรงแรมที่จะไปเที่ยวกัน
สำหรับจังหวัดระยองนั้นเป็นที่น่าเห็นใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนสร้างผลกระทบในระยะสั้นขึ้น ขอเอาใจช่วยอดทนไว้สักพัก เพราะโครงการนี้อยู่ยาวจนถึงเดือน ต.ค.ยังมีเวลาเหลือมากพอที่ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหารที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
จากการเข้าไปดูมีโรงแรมและร้านอาหารชื่อดังจำนวนมากเข้าร่วมโครงการนี้ ผสมโรงกับทางการท่องเที่ยวระยองได้จัดเทศกาล “Rayong Seafood Month” ซึ่งจัดขึ้นแล้ววันนี้ไปจนถึง 31 ส.ค.63 เพียงเข้าพักในโรงแรมที่ร่วมโครงการ รับไปเลยคูปองส่วนลดค่าอาหารมูลค่า 100 บาท ใช้ได้ ณ ร้านอาหารที่ร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
โรงแรมในระยองที่ร่วมรายการ ได้แก่ โรงแรมบ้านฉางพาเลซ,ภูริมาศ, พลา คลิฟ บีช รีสอร์ท, ระยองแมริออท, โนโวเทล ริมเพ, ระยองชาเลต์, คริสตัลเจด, คามิโอ แกรนด์, คลาสสิค คามิโอ, แคนทารี เบย์ม ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล, ฮอลิเดย์ อินน์, มาดิน่า, ระยองเพรสซิเดนท์,ตำนานป่า รีสอร์ท, นิมมานนรดี รีสอร์ท, บรุ๊คไซด์ วัลเลย์, ปริญหาดแสงจันทร์, สตาร์ท โกลเด้นซิตี้และพาวีน่า เป็นต้น
รวมทั้งร้านอาหารที่ร่วมรายการ “Rayong Seafood Month” โซนบ้านฉาง, โซนหาดแสงจันทร์, โซนแม่รำพึง โซนวังแก้ว แม่พิมพ์ และโซนประแส-เนินฆ้อ จำนวนหลายสิบร้าน
ซึ่งทางผู้ประกอบการมีความหวังว่าเทศกาลของ ททท.และโครงการเราเที่ยวด้วยกันช่วยเรียกคนไทยเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนใช้เงินเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ และขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวระยองด้วยครับ.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th