นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า บอร์ดได้อนุมัติหลายมาตรการเพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างรวดเร็วในการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขอนามัยของประชาชนในการรับมือโควิด-19 ประกอบด้วย
1.มาตรการเร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 3 ปีให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ซึ่งปกติจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3-8 ปี เช่น เครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วนวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์, อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล, ชุดตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์, ยาและสารออกฤทธิ์สำคัญในยา เป็นต้น โดยจะครอบคลุมถึงโครงการที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.63 และต้องเริ่มผลิตและมีรายได้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.63 โดยต้องจำหน่ายและหรือบริจาคภายในประเทศอย่างน้อย 50% ของปริมาณที่ผลิตได้ในปี 63-64
2.มาตรการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนสายการผลิตเดิมเพื่อผลิตเครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วน รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร แต่ต้องนำเข้าภายในปี 63 และยื่นขอแก้ไขโครงการภายในเดือน ก.ย.63 และ 3.การปรับสิทธิประโยชน์สำหรับกิจการผลิตวัตถุดิบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต้นน้ำและกลางน้ำในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยเพิ่มเติมขอบข่ายประเภทกิจการผลิตเชื้อเพลิงจากผลผลิตการเกษตรให้ครอบคลุมถึงการผลิตแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ให้กิจการผลิต Non-Woven Fabric วัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์การแพทย์ จากเดิมยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็น 5 ปี.