ในช่วงวิกฤติไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับหมู่มวลมนุษยชาติ ซึ่งในประเทศไทยของเราเองก็หนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน
ที่ผ่านมาเราได้เห็นบริษัทเอกชนดาหน้าออกมาช่วยกันในโครงการเพื่อคนไทยอย่างมากมาย นับเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นทุกครั้งในยามวิกฤติว่า เราคนไทยจะไม่ทอดทิ้งกัน
เรามาดูกันว่าบริษัทเอกชนทั้งหลายเขาได้ทำอะไรกันไปบ้าง เริ่มจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่ประกาศลงทุน 100 ล้านบาท สร้างโรงงานหน้ากากอนามัยแจกจ่ายบุคลากรทางการแพทย์และคนไทย โดยความคืบหน้าของโครงการเหลืออีก 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ
สำหรับบริษัทในเครือ คือบริษัทซีพีเอฟได้จัดโครงการส่งอาหารให้แพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐ จำนวน 88 แห่งทั่วประเทศ และส่งอาหารให้ผู้เฝ้าระวังตนที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หลังเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงได้มากกว่า 20,000 คน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.63 ที่ผ่านมา เดินหน้าโครงการ 2 ได้ขยายการจัดส่งอาหารให้โรงพยาบาลและครอบครัวแพทย์และพยาบาล เพื่อส่งต่อความห่วงใยไปยังครอบครัวของบุคลากรที่เสียสละในการทำงานโดยไม่ย่อท้อ
นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้แพทย์และพยาบาลทั่วประเทศที่เสียสละ พวกเขาเป็นวีรบุรุษและวีรสตรี เครือซีพีนอกจากให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ยังคงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือในทุกด้านให้มากกว่านี้ ในฐานะที่เป็นคนไทยและเป็นบริษัทที่เติบโตในประเทศไทย ให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะอยู่คู่กับคนไทยและต่อสู้กับโควิดจนวินาทีสุดท้าย
ด้านนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ ขยายการสนับสนุนอาหารให้ครอบคลุมไปยังครอบครัวของแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐที่ดูแลผู้ป่วยโควิด โดยแพทย์และพยาบาลสามารถลงทะเบียนและติดตามเงื่อนไขได้ที่ไลน์ ซีพี เฟรชมาร์ท สายด่วนฮอตไลน์ โทร.1788 คาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินงานโครงการทั้งหมดประมาณ 200 ล้านบาท
ขณะที่ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ได้นำเงินจากโครงการเลิกใช้ถุงพลาสติกมาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 77 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาล 77 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับกลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทันทีที่กรมสรรพสามิตได้ออกประกาศส่งเสริม และสนับสนุนการใช้แอลกอฮอล์มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้เร่งผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ จัดให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขที่มีความจำเป็นเร่งด่วนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมทั้งสนามบินหลักทั่วประเทศ
ล่าสุดได้มีการส่งมอบเพิ่มอีกลอตใหญ่ จำนวน 190,000 ลิตร โดยได้มีการผสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย และสภากาชาดไทย ที่จะเร่งกระจาย และแจกจ่ายไปยังชุดปฏิบัติการ และหน่วยบริการสาธารณสุขครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ
ขณะที่บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในเครือไทยเบฟ มอบเงินบริจาคและผลิตภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่ม รวม 24 ล้านบาท ผ่านสภากาชาดไทยพร้อมมอบผลิตภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่ม รวม 10 ล้านบาท บรรจุในตู้แช่เย็นที่จัดตั้งไว้ให้บริเวณวอร์ดผู้ป่วยติดเชื้อ ตลอดระยะ 3 เดือน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เหล่าบุคลากรทางการแพทย์
ซึ่งภาคเอกชนเหล่านี้มองเห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วน ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยให้ประเทศไทยได้ก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th