ก่อนจะเข้าเรื่อง “แจกเงิน 1,000 บาท” ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ขอเกริ่นสักนิดว่า โครงการ “กินพักเที่ยว” ที่เรากำลังจะไล่เรียงต่อไปนี้ ไม่ใช่โครงการเดียวกันกับ “กระทรวงการคลังแจกเงิน 1,000-2,000 บาทต่อคน” เพราะฉะนั้นย่อมเท่ากับว่าประชาชนคนไทยมีโอกาสที่จะได้รับเงินสูงสุด 3,000 บาทต่อคน หากลงทะเบียนได้ทั้งสองโครงการ
ทีมข่าวได้แจกแจงรายละเอียดของมาตรการที่ทางกระทรวงการคลัง จะแจกเงินหัวละ 1,000-2,000 บาทไปแล้ว โดยคุณสามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
ส่วนโครงการ “กินพักเที่ยว” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะแจกเงิน 1,000 บาท เพื่อให้ประชาชนนำไปท่องเที่ยวนั้น มีรายละเอียดสำคัญ ดังต่อไปนี้
เหตุผลที่แจกเงิน?
- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า โครงการ "กินพักเที่ยว" เป็นการแจกเงินทุนตั้งต้น คนละ 1,000 บาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยจะใช้งบกลางปี 2563 วงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวจะนำเสนอ ครม.เศรษฐกิจวันนี้ (6 มี.ค.) และถ้าผ่านมติ ครม. จะเริ่มโครงการ “กินพักเที่ยว” ภายในต้นเดือนเมษายน 2563
- โดยที่มาของโครงการดังกล่าวนั้น มาจากบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ไวรัสโควิค-19 โดยคาดว่า มาตรการนี้สามารถสร้างการหมุนเวียนให้ระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 25,000 ล้านบาท
- อย่างไรก็ดี นายพิพัฒน์ ยังระบุไว้ว่า “เงินจำนวน 1,000 บาทนี้ ไม่สามารถเอาออกมาใช้จ่ายแบบอิสระเหมือนกับชิมช้อปใช้”
ใครมีสิทธิ์ได้รับเงิน 1,000 บาท?
- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่า ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินจำนวน 1,000 บาท จากโครงการกินพักเที่ยว คือ ประชาชนคนไทยจำนวน 5 ล้านคน โดยจำกัดโควตาตามจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด เพื่อให้การใช้จ่ายกระจายตัวทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย และผู้ที่มีโอกาสได้รับเงินจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ต่อ 14 คน
- นายยุทธศักดิ์ ยกตัวอย่างว่า ประชากรในกรุงเทพฯ มีจำนวน 6 ล้านคน จะมีผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 4 แสนคน
ประชากรในจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวน 1.7 ล้านคน จะมีผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 1.2 แสนคน
ประชากรในจังหวัดราชบุรี มีจำนวน 9 แสนคน จะมีผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 6 หมื่นคน เป็นต้น
หมายเหตุ : จำนวนประชากร จะยึดตามจำนวนประชาการในทะเบียนบ้าน
- เมื่อถามว่า มีเกณฑ์วัดอย่างไรว่า ใครจะเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงิน 1,000 บาท? นายยุทธศักดิ์ ให้คำตอบว่า “เมื่อโควตามีจำนวนจำกัด แต่ผู้ต้องการรับสิทธิ์มีจำนวนมาก การแข่งขันก็จะเกิดขึ้น ซึ่งการแข่งขันนั้นก็คือ ใครเข้าก่อน ได้ก่อน ครบโควตาก็หมดสิทธิ์”
วิธีการแจกเงิน เป็นอย่างไร?
- นายยุทธศักดิ์ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า โครงการ “กินพักเที่ยว” จะมีวิธีการลงทะเบียนคล้ายคลึงกับโครงการ “ชิมช้อปใช้” โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือถึงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ที่จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน
วิธีใช้เงิน “กินพักเที่ยว”
- นายยุทธศักดิ์ เปิดเผยกับทีมข่าวถึงรายละเอียดการใช้เงินจากโครงการ “กินพักเที่ยว” ไว้อย่างน่าสนใจ โดยทีมข่าวจะเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- เมื่อคุณลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และระบบยืนว่า คุณได้รับสิทธิ์ คุณจะต้องโหลดแอปพลิเคชัน (ส่วนจะเป็นแอปใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ) เข้าไปในโทรศัพท์มือถือ
- ในแอปพลิเคชันดังกล่าว จะมีรายละเอียดของแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ ให้ท่านเลือก
หมายเหตุ : แพ็กเกจทัวร์ต่างๆ นั้น มาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะดำเนินการจัดทำโปรแกรมในการท่องเที่ยวร่วมกับเอกชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัด อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร รถทัวร์ รถเช่า เป็นต้น
- เมื่อคุณเจอแพ็กเกจที่ถูกใจ ขั้นตอนต่อมา คือ คุณจะต้องกดซื้อแพ็กเกจนั้นๆ
หมายเหตุ : แพ็กเกจดังกล่าว จัดโดยเอกชนท้องถิ่นภายในจังหวัดของคุณ ซึ่งจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด
- เมื่อถามว่า สามารถนำเงิน 1,000 บาท ไปท่องเที่ยวเองได้หรือไม่? นายยุทธศักดิ์ ตอบว่า “การท่องเที่ยวโดยไปกับครอบครัว หรือคนใกล้ชิดแบบตามใจฉันนั้น ทำไม่ได้ จะต้องใช้จ่ายผ่านแพ็กเกจที่กำหนดมาเท่านั้น”
“ทางภาครัฐมีเงินทุนตั้งต้นให้คุณ 1,000 บาท ซึ่งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป จะต้องซื้อข้าวของอื่นๆ เพิ่มเติม โดยแต่ละคนจะใช้เงินมากกว่า 1,000 บาท ฉะนั้น หากมีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม คุณจำเป็นต้องออกค่าใช้จ่ายนั้นๆ เอง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาโควิด-19” นายยุทธศักดิ์ กล่าว.