"สารัชถ์" ย้ำโรงไฟฟ้า "กัลฟ์" ทุกแห่งลดมลพิษ ใช้ก๊าซธรรมชาติเชื้อเพลิงหลัก

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"สารัชถ์" ย้ำโรงไฟฟ้า "กัลฟ์" ทุกแห่งลดมลพิษ ใช้ก๊าซธรรมชาติเชื้อเพลิงหลัก

Date Time: 28 ม.ค. 2563 07:45 น.

Summary

โรงไฟฟ้าของกัลฟ์ และบริษัทในเครือทั้งหมดจะมุ่งหน้าสู่การเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้นและจะไม่มีโรงใดแม้แต่โรงเดียวที่ใช้ถ่านหิน แม้ว่ามีรายงานผลการศึกษาของนักวิชาการ

Latest

ท่องเที่ยวปลายปีคึกคักน้อย พิษน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้-ปมขัดแย้งกัมพูชา

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า โรงไฟฟ้าของกัลฟ์ และบริษัทในเครือทั้งหมดจะมุ่งหน้าสู่การเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้นและจะไม่มีโรงใดแม้แต่โรงเดียวที่ใช้ถ่านหิน แม้ว่ามีรายงานผลการศึกษาของนักวิชาการทั้งไทยและเทศ รายงานว่า ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยในการดักจับฝุ่นละออง หรือมลพิษจากการเผาไหม้ของถ่านหิน หรือแม้แต่จะมีผู้รายงานว่า พบแหล่งถ่านหินที่มีคุณภาพอย่างไรก็ตาม

“ตราบเท่าที่ประชาชนคนไทย และองค์กรหลายแห่งในต่างประเทศ ปฏิเสธการใช้ถ่านหิน เนื่องจากทำให้เกิดมลพิษทางอากาศสูง และเป็นบ่อเกิดให้อุณหภูมิโลกร้อนด้วย กัลฟ์ก็จะไม่มีทางใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าโดยเด็ดขาด”

สำหรับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานอื่นๆที่ยังมีนโยบายจะคงสภาพการใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกอีกทาง หรือยังพยายามยื้อการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงต่อไป โดยเฉพาะเมื่อถ่านหินมีราคาต่ำลง ก็อาจจะถูกประชาชนลุกขึ้นต่อต้านได้ ซึ่งท้ายที่สุดความพยายามยื้อถ่านหินไว้ จะส่งผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และอาจทำให้โครงการสร้างโรงไฟฟ้าต้องล่าช้าออกไป

“ความพยายามผลิตไฟฟ้าให้ครบวงจรคือ ใช้ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน พลังงานลม แสงแดด หรือแม้แต่พลังงานจากการเผาไหม้ขยะนั้น เป็นเรื่องต้องยอมรับว่า ถ่านหินมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเสี่ยงทั้งการเติบโตที่ช้ากว่าการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก และการถูกคัดค้านจากมหาชน จนกระทั่งถ่านหินต้องสูญเสียตลาดให้กับพลังงานทดแทนอื่นๆในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศพัฒนา รวมทั้งประเทศไทย” ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานให้ความเห็นแม้ราคาถ่านหินจะมีแนวโน้มต่ำลงตาม ลำดับ แต่ก็อาจจะขายได้กับประเทศที่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินอยู่ เช่น ในจีนและอินเดีย ในขณะที่ยุโรปและอเมริกาเหนือ ความต้องการลดลง อย่างมาก ผู้ประกอบธุรกิจไทยหลายรายที่เดินทางไปซื้อกิจการในต่างประเทศ ซึ่งมีโรงไฟฟ้าถ่านหินรวมอยู่ด้วย

และในที่สุด ก็ไม่สามารถจะขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ซื้อมาได้ ในขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าทั่วโลก หันหลังให้กับพลังงานจากถ่านหิน บรรดาบริษัทพลังงานที่ซื้อเหมืองถ่านหินไว้ ยิ่งต้องเผชิญปัญหาเพิ่มขึ้นเมื่อไม่สามารถสร้างรายได้จากการขายถ่านหินได้ จนจำต้องปรับลดราคาลงเรื่อยๆกระทั่งถึงราคาหุ้น จากหุ้นบริษัทที่มีผลประกอบการดี และมีราคาสูง ก็กลับกลายเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง และไม่มีกองทุน หรือนักเล่นหุ้น รายใดให้ความสนใจอีก

โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ยังผลิตกระแสไฟฟ้า จ่ายให้แก่บ้านเรือนประชาชน คือ โรงไฟฟ้าแม่เมาะของ กฟผ.ที่ยังเครื่องจักรหลายตัวที่ผลิตขึ้นเพื่อให้พลังงานจากถ่านหิน ผู้บริหาร จึงต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงมากในการกำจัดมลพิษจากการเผาไหม้ และเครื่องดักจับฝุ่นละอองที่เกิดจากการเผาถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า

นายสารัชถ์ให้คำแนะนำว่า ควรมีการสนับสนุน และส่งเสริมให้ประชาชน และผู้ประกอบการหันมาใช้พลังงานทดแทนกันให้มากขึ้นทั้งที่เป็นพลังงานลม และพลังงานแสงแดด หรือพลังงานชีวมวล ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้ลงทุนในเรื่องนี้อยู่มาก ปัจจุบัน กัลฟ์กลายเป็นผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่นๆ (Holding Company) ที่มีธุรกิจหลักด้านการผลิต และจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเย็น และปีที่ผ่านมา กัลฟ์ถูกยกให้เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ด้วยกำลังการผลิตที่ใหญ่กว่า และที่ซื้อเพิ่มเติมมา รวมกันมากกว่า 16,000 เมกะวัตต์ ทั้งใน ลาว เวียดนาม กัมพูชา รวมถึงญี่ปุ่น และโอมาน และใน 2 ปีหาก บมจ.ราชกรุ๊ป ยังไม่ขยายกิจการ กัลฟ์อาจเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แทนที่ กฟผ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ