คาบลูกคาบดอก : ภัยแล้งวิกฤติอาหาร

สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงของโลกถูกจับตาเฝ้าระวังจากองหค์กรสากลต่างๆ แผนยุทธศาสตร์ของบริษัท ขนาดใหญ่ที่เป็นแผนหลักและยั่งยืน บรรจุเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นหัวข้อต้นๆ การตื่นตัวในการลดใช้ถุงพลาสติก ก็ดี การรณรงค์ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก็ดี เป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ครั้งใหญ่

เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติที่ใกล้ตัวเต็มที

ประเทศไทย คาดว่า สภาวะภัยแล้งปีนี้จะหนักและรุนแรงมากกว่าทุกปี ในรอบกว่า 30 ปีที่ภัยแล้งจะส่งผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งประเทศครอบคลุมทั้งประเทศ ปลายปี 2562 ที่ผ่านมา เกือบจะทุกพื้นที่ เกือบจะทุกเขื่อนที่เก็บกักน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยประกาศให้ 18 จังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ เชียงราย น่าน อุตรดิตถ์ นครราชสีมา กาญจนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุทัยธานี นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ ฉะเชิงเทรา ชัยนาท นครสวรรค์ และ สุพรรณบุรี รวมทั้งสิ้น 4,429 หมู่บ้าน นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ไทยจะต้องเผชิญกับภาวะฝนแล้ง ไปจนถึงเดือน มิ.ย.2563 ปริมาณฝนต่ำกว่าค่าปกติร้อยละ 3-5

เข้าสู่ช่วงวิกฤติ

แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ เกษตรกร ที่ได้รับความเสียหายอย่างถ้วนหน้า อาทิ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู นอกจากจะต้องเฝ้าระวัง โรคติดต่อหมูที่ระบาดในช่วงฤดูแล้ง เข้มงวดกับการระบาดของ ASF กระทบถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ยังต้องแบกภาระราคาค่าอาหารสัตว์ที่แพงขึ้นด้วย

ราคาหมูในตลาดที่เพิ่มขึ้นย่อมมีผลกระทบกับผู้บริโภคโดยตรง เพราะถ้าไม่ปรับราคาเกษตรกรก็อยู่ไม่ได้ การที่หมูโตช้ากว่าปกติ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวแล้ว

หลายประเทศในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนาม ราคา หมูหน้าฟาร์มสูงขึ้นกิโลกรัมละ 120-200 บาท เป็นไปตามอุปสงค์อุปทานของตลาด กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดว่าในปี 2562 ที่ผ่านมา ประเทศจีน มีการนำเข้าเนื้อหมูสูงถึง 2.6 ล้านตัน และเพิ่มเป็น 3.5 ล้านตันในปี 2563 สูงเป็นประวัติการณ์ ราคาหมูของ กัมพูชา อยู่ที่กิโลกรัมละ 88 บาท ส่วน ประเทศไทย ราคาหมูยังอยู่ที่ไม่เกินกิโลกรัมละ 75 บาท

ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

ในสภาวการณ์ปัจจุบัน เรื่องของอาหารจะเป็นปัจจัยสำคัญของมนุษย์มากขึ้น อาหารยิ่งน้อยความต้องการยิ่งเพิ่ม ราคาสินค้าการเกษตรจะสูงขึ้นตามกลไกของตลาด ภาครัฐควรหันกลับมาให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรให้มากขึ้น เพื่อเป้าหมายครัวของโลกที่ตั้งเป้ากันมาไม่รู้กี่รัฐบาล ไม่ต้องไปห่วงว่าจะต้องเป็นไทยแลนด์ 4.0 ให้เมื่อยตุ้ม.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th