“ศักดิ์สยาม” ปิดคดียักษ์ชง ครม.เห็นชอบวันนี้ ยุติข้อพิพาท “ค่าโง่ทางด่วน”

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“ศักดิ์สยาม” ปิดคดียักษ์ชง ครม.เห็นชอบวันนี้ ยุติข้อพิพาท “ค่าโง่ทางด่วน”

Date Time: 24 ธ.ค. 2562 08:01 น.

Summary

“ศักดิ์สยาม” โชว์ผลงานชิ้นโบแดง ยุติข้อพิพาท “ค่าโง่ทางด่วน” ระหว่าง กทพ.-บีอีเอ็ม เตรียมเสนอ ครม. วันนี้ ไฟเขียวขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนบีอีเอ็มทุกสัญญาที่มีข้อพิพาท อีก 15 ปี 8 เดือน

Latest

ขีดความสามารถการแข่งขันด้านดิจิทัลของไทยร่วงต่อ สิงคโปร์ร่วงตาม



“ศักดิ์สยาม” โชว์ผลงานชิ้นโบแดง ยุติข้อพิพาท “ค่าโง่ทางด่วน” ระหว่าง กทพ.-บีอีเอ็ม เตรียมเสนอ ครม. วันนี้ ไฟเขียวขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนบีอีเอ็มทุกสัญญาที่มีข้อพิพาท อีก 15 ปี 8 เดือน สิ้นสุด 31 ต.ค.78 พร้อมให้คู่กรณีถอนคดีฟ้องร้องกัน 17 คดี และบีอีเอ็มต้องเปิดให้ประชาชนใช้ทางด่วนฟรีทุกด่านที่มีข้อพิพาท ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ยาวถึงปี 78 แลกหนี้ 5.8 หมื่นล้านบาท

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คณะทำงานเพื่อแก้ไขข้อพิพาทในสัญญาระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ได้ข้อสรุปที่จะยุติข้อพิพาทระหว่างกัน และรายงานนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เห็นชอบแล้ว ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบวันนี้ (24 ธ.ค.) โดยจะเสนอให้ขยายอายุสัญญาสัมปทานให้โครงการทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนเอ, บี, ซี, ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนดี และโครงการทางด่วนอุดรรัถยา ส่วนซี+สายบางปะอิน-ปากเกร็ด ไปอีก 15 ปี 8 เดือนในทุกสัญญาที่มีข้อพิพาท โดยสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.78 พร้อมกันทุกสัญญา ซึ่งภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว ทั้ง กทพ. และบีอีเอ็มต้องถอนฟ้องทั้ง 17 คดีที่ฟ้องร้องกัน มูลค่ากว่า 58,873 ล้านบาท แบ่งเป็นบีอีเอ็มฟ้องร้อง กทพ. 15 คดี และ กทพ.ฟ้องร้องบีอีเอ็ม 2 คดี ขณะเดียวกัน บีอีเอ็มจะยกเว้นค่าผ่านทางทุกด่านที่มีข้อพิพาท ในวันหยุดนักขัตฤกษ์กว่า 19 ครั้งต่อปี ตลอดอายุสัญญาจนถึงปี 78

ทั้งนี้ หลังจากที่ ครม.เห็นชอบแล้ว กระทรวงจะแจ้งผลให้บีอีเอ็มทราบ และ กทพ.ต้องเจรจากับบีอีเอ็มให้ได้ข้อยุติ รวมทั้งรายงานผลการเจรจาให้คณะกรรมการกำกับตามมาตรา 44 เห็นชอบ พร้อมกันนั้นต้องส่งร่างสัญญาแก้ไขให้อัยการสูงสุดพิจารณา ก่อนส่งกลับมายังกระทรวง เพื่อเสนอให้ ครม.เห็นชอบต่อไป ซึ่งทั้งหมดต้องแล้วเสร็จ เดือน ม.ค.63 ก่อนสัญญาสัมปทานกับบีอีเอ็มจะหมดอายุวันที่ 29 ก.พ.63 “การเจรจาครั้งนี้ถือเป็นซุปเปอร์ดีล เพราะได้ตัวเลขข้อสรุปที่ดีมาก ส่วนที่กังวลว่า ถ้าลงนามในสัญญาขยายสัญญาสัมปทานแล้วจะมีผลบังคับเลยหรือไม่นั้น ทั้ง 2 ฝ่ายมีข้อตกลงว่า หากไม่ถอนฟ้องคดีที่ฟ้องร้องกัน การขยายสัญญาสัมปทานจะไม่มีผลบังคับแน่นอน”

ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ กทพ. กล่าวว่า เจรจากับบีอีเอ็มเพื่อให้ได้ข้อยุติมากกว่า 8 ครั้ง และลดมูลหนี้จากเดิม 137,517 ล้านบาท เหลือ 58,873 ล้านบาท โดยยึดหลักเจรจาจากข้อพิพาทระหว่างกันเป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับข้อเสนอที่จะมีการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 ระยะทาง 17 กิโลเมตร ซึ่งการเจรจาจะยึดหลัก ไม่ขยายสัญญาสัมปทานเกิน 30 ปี จึงได้ข้อยุติขยายอายุสัญญาสัมปทาน 15 ปี 8 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.61 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ชี้ขาดให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชำระเงินค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (เอ็นอีซีแอล) สำหรับปี 42 จำนวน 730,800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย และปี 43 อีก 1,059,200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวม 1,790,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยกรณีที่ กทพ.สร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ถือเป็นทางแข่งขันที่ทำให้การจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ดลดลง ซึ่งมีผลกระทบตามสัญญา อย่างไรก็ตาม ครม. มีมติเมื่อวันที่ 2 ต.ค.61 ให้ กทพ.เจรจากับคู่พิพาท เพื่อบรรเทาความเสียหายของรัฐ โดยให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ชอบด้วยกฎหมาย และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ นำมาซึ่งการเจรจาและได้ข้อยุติดังกล่าว.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ