
แถมยังใจดีเพิ่มค่าครองชีพให้อีก 600 บาท
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ.ได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาลูกหนี้ กยศ. และช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ 5 แนวทาง คือ
1.ลดเบี้ยปรับหรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระหนี้กู้ยืมให้ 80% สำหรับกลุ่มที่ชำระหนี้ที่ค้างชำระและปิดบัญชีในครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62-29 ก.พ.63 2.ลดเบี้ยปรับให้ 75% เฉพาะกลุ่มก่อนฟ้องคดี ที่มาชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62-29 ก.พ.63 และจะต้องชำระหนี้ให้ตรงเวลา แต่ถ้าหากผิดนัดชำระหนี้ในปีที่ 2 กยศ.จะยึดสิทธิ์ลดเบี้ยปรับคืน โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้มีจำนวนผู้ที่ต้องมาปิดบัญชี 110,000 ราย
3.พักชำระหนี้ 1 ปี สำหรับผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน จำนวน 300,000 ราย โดยเงื่อนไขคือต้องเป็นผู้กู้ยืมก่อนมีการฟ้องคดี กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี จะได้รับการพักชำระหนี้งวดปี 63 กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน พักชำระหนี้ 12 เดือน นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนอนุมัติ โดยลงทะเบียนขอรับสิทธิตามเงื่อนไขได้ทาง www.studentloan. or.th/promotion ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62-29 ก.พ.63 ทั้งนี้ มีผู้กู้ยืมที่เข้าข่ายได้รับสิทธิพักชำระหนี้ 335,000 ราย
4.ปรับอัตราเบี้ยปรับจากเดิม 12-18% เหลือ 7.5% ต่อปี เฉพาะกลุ่มก่อนดำเนินคดีมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินที่ค้างชำระ ให้ผ่อนชำระเงินคืนได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนงวดที่ผิดนัดชำระจนถึงวันที่ 30 ก.ย.62 ยังคิดอัตราเบี้ยปรับเท่าเดิม 5. เพิ่มค่าครองชีพ 600 บาทต่อเดือน แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากเดิม 1,200 บาท เพิ่มเป็น 1,800 บาท และระดับ ปวช., ปวส. และปริญญาตรี จากเดิม 2,400 บาท เพิ่มเป็น 3,000 บาท โดยในกลุ่มนี้มีผู้ได้รับเงินเพิ่ม 600,000 คน จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีการศึกษา 63 เป็นต้นไป ใช้งบฯรวมทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาทต่อปี “หากผู้กู้รายใดไม่ประสงค์จะรับการเพิ่มค่าครองชีพ เพื่อไม่ให้ยอดหนี้ กยศ.มากขึ้นไปกว่านี้ ให้แจ้ง กยศ.เข้ามาว่าไม่ประสงค์จะรับเงินค่าครองชีพเพิ่มเติม”
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจำนวนผู้กู้ กยศ.ที่รับเงินเดือนผ่านกรมบัญชีกลาง หน่วยงานราชการและบริษัทเอกชน 1.2 ล้านคน โดยปีนี้สามารถหักเงินผ่านบัญชีเงินเดือนผู้กู้ กยศ.ได้แล้ว 7,000 แห่ง จำนวน 400,000 ราย ตั้งเป้าว่าปี 63 จะหักเงินผ่านบัญชีเพิ่มเป็น 700,000 ราย และปี 64 จะหักหนี้ผ่านบัญชีให้ครบ 1 ล้านคน.