เศรษฐกิจชี้ขาดความเป็นไป

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เศรษฐกิจชี้ขาดความเป็นไป

Date Time: 21 ส.ค. 2562 05:01 น.

Summary

ตั้งลำให้ดีก็แล้วกัน คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธได้ยากกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆเป็นองค์ประกอบ

Latest

เจาะ 10 คาดการณ์เศรษฐกิจ - การเงิน - การลงทุน จาก "ภาษีทรัมป์" เกมบีบจีน ที่สะเทือนไทยและโลก

ตั้งลำให้ดีก็แล้วกัน...

คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธได้ยากกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆเป็นองค์ประกอบ

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน นั้นคือเงื่อนไขสำคัญอันไม่ต่างไปจากการต่อสู้ที่เข้มข้นแม้ไม่ถึงกับต้องควักอาวุธออกมาสู้รบกัน

แต่สงครามโลก 2 ครั้งที่เกิดขึ้นนั้นก็มาจากเหตุ “เศรษฐกิจ” เป็นด้านหลัก เพียงแต่อาศัยความขัดแย้งอื่นๆมาเป็นชนวนเท่านั้น

หากมองกันด้วยสภาพความเป็นจริง สถานการณ์ต่างๆ ดูเหมือนจะเชื่อมโยงให้เดินไปสู่จุดนั้นอีกครั้ง

แน่นอนว่าประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบอย่างแยกไม่ออก

ทั้งปัญหาภายในและผลกระทบจากภายนอกทับถมเข้ามา

พูดง่ายๆปัญหาเศรษฐกิจนี่แหละที่จะเป็นปัจจัยชี้ขาด

อาเซียนด้วยกันเองก็กำลังเผชิญกับเรื่องเศรษฐกิจไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเยี่ยมที่สุด

ปรากฏว่า จีดีพีลดลงจนเกิดความหวั่นไหวไม่น้อย สิงคโปร์นั้นถือว่าเยี่ยมสุดในอาเซียนด้วยกันก็ไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้มาก่อน

อินโดนีเซียถือว่าเป็นประเทศ “ดาวรุ่ง” ที่ประกาศว่าจะมุ่งไปสู่ประเทศที่มีเศรษฐกิจโต 1 ใน 7 ของโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ก็เกิดอาการสะดุดไม่ต่างกัน...

ประเทศต่างๆเหล่านี้ต่างรู้กันดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ต่างก็สุมหัวเพื่อร่วมคิดร่วมทำเพื่อให้ผ่านจุดเปราะบางนี้ไปให้ได้

เพราะมีวิธีเดียวที่จะฝ่ามรสุมเศรษฐกิจนี้ไปให้ได้ก็คือ ต้องร่วมมือร่วมใจกันทั้งประเทศจึงจะสามารถตั้งรับและใช้ปัญญาจึงจะผ่านพ้นไปได้

พูดง่ายๆว่าแม้จะต้องเจ็บแต่ก็ต้องตั้งอยู่ได้ คือไม่เจ็บมากนัก แม้พื้นฐานเศรษฐกิจจะดีเยี่ยม แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เข้าใครออกใคร

เมื่อทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันไม่ว่าประเทศเล็กหรือใหญ่ก็ตาม อย่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก

ต่างก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจไม่ต่างกัน

ประเทศไทยแม้โดยพื้นฐานที่มีทุนสำรองเป็นตัวช่วยให้มีความมั่นคง มีความเชื่อมั่นจากนานาชาติ

แต่นั่นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะต้องมีนโยบาย มีการวางแผนและวิธีการที่จะจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างรู้เท่าทันและมองการณ์ไกลอีกด้วย

อย่าว่าแต่ประชาชนชาวรากหญ้าซึ่งเป็นฐานรากของประเทศที่เป็นปัญหาหลักของประเทศทั้งความยากจน ความเหลื่อมล้ำเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

แต่วันนี้บรรดาภาคเอกชนทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ไม่ต้องพูดถึงขนาดเล็กอย่างพวกเอสเอ็มอีที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก

ล้วนหน้าดำคร่ำเครียดเพราะหวั่นไหวกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่ถดถอยและได้เสนอวิธีการให้รัฐบาลนำไปแก้ไข

ประเด็นที่อยากเสนอให้เป็นแง่คิดด้วยคำถามถึง “นักการเมือง” ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านว่ารู้สึกรู้สากันแค่ไหน

ถ้ายังเป็นไปอย่างนี้น่าห่วงครับ...ประเทศไทย!

“สายล่อฟ้า”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ