"ลุงตู่" สั่ง ครม.เศรษฐกิจ ระดมสมองรับมือสถานการณ์โลกป่วน!

ดูแลเศรษฐกิจจุลภาคเกษตรชุมชน-ท่องเที่ยว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กล่าวประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่เข้าร่วมรับฟังกว่า 800 คน มีสาระสำคัญว่าต้องการให้ช่วยกันนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และต้องการสร้างการเรียนรู้ของข้าราชการและประชาชนไปพร้อมกัน กระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องศึกษาว่าทำอะไรไปแล้วและติดขัดตรงไหน และขอให้ดูให้ดีว่าการแก้ปัญหาจุดหนึ่งจะไม่ไปสร้างปัญหาใหม่ขึ้นอีก

“ประเทศมหาอำนาจโลกมีปัญหากัน มีมาตรการการเงินการคลังตอบโต้กันไปมา ต้องพิจารณาว่าจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและค่าเงินบาทอย่างไร ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ลดดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว รัฐบาลจะนำไปหารือต่อในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ให้เตรียมมาตรการรับมือสถานการณ์โลก ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ภาคเอกชนและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต้องปรับตัว แต่เสถียรภาพการคลังของไทยมีความแข็งแกร่ง มีทุนสำรองสูงและเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั่วโลกยอมรับว่าค่าเงินบาทปลอดภัยที่สุด แต่มีทั้งคุณและโทษต้องดูเรื่องเงินไหลออกและเงินไหลเข้าทั้ง 2 ทาง ซึ่งตนเชื่อมั่นในคณะทำงาน”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลบริหารเศรษฐกิจมหภาคอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต่อไปต้องดูแลเศรษฐกิจจุลภาคให้เชื่อมโยงกันทั้งห่วงโซ่ ทั้งกลุ่มเกษตรกร กลุ่มท่องเที่ยว บริการอุตสาหกรรม ขณะที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีการตรวจสอบคนที่เป็นตัวจริง และปรับเกณฑ์ผู้ถือบัตรจากรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็น 50,000-100,000 บาทต่อปี สิ่งสำคัญต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้มีรายได้น้อย ขณะที่การลงทุนส่วนใหญ่มาจากภาครัฐ ทำให้ช้าเพราะงบประมาณแต่ละปีมีจำกัด ทำได้ไม่ต่ำกว่า 20 % ของงบประมาณรายจ่ายแต่ละปี ทุกกระทรวงต้องไปดูแลให้เกิดรายได้ด้วย หากใช้แต่ของเดิมไม่มีรายได้ก็จะกินตัวเองไปเรื่อย ส่วนการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ต้องมี P อีกตัวคือประชาชนด้วย และการใช้จ่ายงบประมาณ อะไรที่แก้ปัญหาเร่งด่วนได้ ใช้งบฯน้อยขอให้เร่งทำ ส่วนอะไรที่ใช้งบฯมากไปอย่าเพิ่งทำ จะทำให้งานสะดุดได้ และวันนี้เศรษฐกิจอยู่ได้เพราะการท่องเที่ยวและบริการและการค้าขายชายแดน ท่องเที่ยวทำได้ดีขอให้ทำดีต่อไป สิ่งสำคัญต้องดูแลประชาชนในท้องถิ่นให้ได้ประโยชน์ นำรายได้มาพัฒนาพื้นที่ และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนการค้าออนไลน์ควรเสียภาษีอย่างเป็นธรรม เพราะเป็นกติกาโลกอยู่แล้ว ไม่ใช่รัฐบาลไปรีดกับใคร.