ปลื้ม!ผลงานรัฐบาล "บิ๊กตู่" แจ้งเกิด 2 โครงการยักษ์ "อีอีซี" 2.7 แสนล้าน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ปลื้ม!ผลงานรัฐบาล "บิ๊กตู่" แจ้งเกิด 2 โครงการยักษ์ "อีอีซี" 2.7 แสนล้าน

Date Time: 25 มิ.ย. 2562 07:01 น.

Summary

“บิ๊กตู่” ปิดจ๊อบ 2 โครงการยักษ์ในอีอีซี “ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน-ท่าเรือมาบตาพุด” เอกชนร่วมลงทุนในรัฐบาลนี้ เซ็นสัญญาเดือน ก.ค.นี้แน่นอน รวมมูลค่า 271,900 ล้านบาท

Latest

“นมโค-มะพร้าวน้ำหอม” ล้นตลาด!“จตุพร” ออก 3 มาตรการเชิงรุก หวังดึงราคา-เร่งระบายสินค้า

“บิ๊กตู่” ปิดจ๊อบ 2 โครงการยักษ์ในอีอีซี “ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน-ท่าเรือมาบตาพุด” เอกชนร่วมลงทุนในรัฐบาลนี้ เซ็นสัญญาเดือน ก.ค.นี้แน่นอน รวมมูลค่า 271,900 ล้านบาท ส่วนโครงการที่เหลือ เข็นต่อในรัฐบาลชุดหน้า

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาและรับทราบความคืบหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 2 โครงการที่จะลงนามระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชนภายในเดือน ก.ค.62 ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา) และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ช่วงที่ 1

ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ กพอ. กล่าวว่า วันที่ 24 มิ.ย.62 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หลังจากนี้จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วจึงลงนามในสัญญาได้ ถือเป็นโครงการร่วมทุนรัฐและเอกชนในอีอีซีโครงการแรก ส่วนการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง วันที่ 25 มิ.ย.นี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะสรุปแผนการส่งมอบพื้นที่และส่งให้เอกชนได้ ซึ่งจะทำให้โครงการเดินตามแผน ไม่ล่าช้า โดยนายกรัฐมนตรีกำชับอย่าให้การส่งมอบพื้นที่มีปัญหา ทันตามกำหนด และสอดคล้องโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา

สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ล่าสุดร่างสัญญาฉบับสมบูรณ์จัดทำเสร็จแล้ว กรรมการจะตรวจร่างสัญญาอีกครั้ง และจะเสนอความเห็นกลับมาวันที่ 1 ก.ค.นี้ แล้วจึงเสนอให้ ครม.เห็นชอบ ก่อนให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ลงนามกับภาคเอกชนในเดือน ก.ค.นี้ “2 โครงการลงทุนใหญ่ในอีอีซี มูลค่ารวมกันถึง 271,900 ล้านบาท ได้เอกชนแล้ว ถือเป็นผลงานของรัฐบาลนี้ แม้บางโครงการล่าช้า แต่ไม่ได้ล่าช้าในขั้นตอนของภาครัฐ เกิดจากความไม่พร้อมของภาคเอกชน แต่ภาครัฐต้องทำให้เกิดความโปร่งใสที่สุด”

ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างฟ้องร้อง คือ สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก คณะกรรมการคัดเลือกอยู่ระหว่างการพิจารณา และสอบถามคุณสมบัติของพันธมิตรบริษัทเอกชนที่ร่วมทุนยื่นประมูลโครงการ ซึ่ง สกพอ.กำลังทำความเห็นกลับไปยังคณะกรรมการคัดเลือก และน่าจะส่งความเห็นกลับมาได้ในสัปดาห์นี้ หากไม่มีปัญหาด้านคุณสมบัติ สามารถเปิดเอกสารในซองที่ 2 ด้านเทคนิค และซอง 3 ด้านราคา ของกลุ่มเอกชนที่เข้าร่วมประมูลได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะพิจารณาเสร็จ ก็ยังไม่สามารถประกาศผลผู้ชนะได้ จนกว่าศาลปกครองจะมีคำตัดสิน ส่วนโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ศาลปกครองให้รอการทำงานของคณะอนุกรรมการอุทธรณ์ข้อพิพาทของเอกชนในโครงการอีอีซีก่อน จากนั้นศาลจึงจะตัดสินข้อร้องเรียนของเอกชน

นอกจากนี้ยังรับทราบการลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดนี้พร้อมเปิดโอกาสให้คู่สัญญาในโครงการต่างๆ มายื่นอุทธรณ์ได้ พร้อมกันนี้ ยังเห็นชอบร่างระเบียบการจัดตั้งกองทุนอีอีซี เพื่อเป็นกลไกพัฒนาชุมชน ช่วยเหลือเยียวยา สนับสนุนการศึกษา และเป็นแหล่งเงินในการพัฒนาโครงการเกี่ยวข้อง โดยจะมีงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ล่าสุดได้รับจัดสรรแล้ว 100 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ