น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลอาเซียนในปี 63 นั้น กระทรวงดีอี จึงเร่งรัดให้บริษัท กสท.
น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลอาเซียนในปี 63 นั้น กระทรวงดีอี จึงเร่งรัดให้บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท เร่งขยายความจุเครือข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศ รองรับความต้องการใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่เติบโตแบบก้าวกระโดดมากในช่วงที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนโยบายรัฐบาลที่มีเป้าหมายให้ประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัล โดยดีอี ได้ให้สิทธิ์ แคท ไปดำเนินการขยายความจุ และสร้างเคเบิลใยแก้วแก้วใต้น้ำระหว่างประเทศ เพื่อรองรับความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ต
สำหรับภารกิจที่แคท ต้องดำเนินการคือ 1.การขยายความจุเครือข่ายเคเบิลใยแก้วในประเทศเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา เมียนมาใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท 2.ขยายความจุเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศในเส้นทางสิงคโปร์ จีน ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการได้ดำเนินการเสร็จแล้ว ซึ่งแคท สามารถนำไปใช้งานที่จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งปริมาณความจุเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นนั้น จะช่วยกระตุ้นและขยายตัวทางเศรษฐกิจ เกิดสร้างงานและธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงสร้างโอกาสทางการศึกษา สาธารณสุข อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตได้ด้วย และ 3.การสร้างเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ เชื่อมประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไทย จีน เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ งบลงทุน 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 64 ซึ่งจะส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์.