ตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค.62 ติดลบ 5.79% สูงสุดในรอบ 34 เดือน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค.62 ติดลบ 5.79% สูงสุดในรอบ 34 เดือน

Date Time: 21 มิ.ย. 2562 17:02 น.

Video

ไม่กลัวเศรษฐกิจโลกล่มสลาย เพราะมี Bitcoin ผู้เขียน The Bitcoin Standard | Thairatrh Money Talk EP.22

Summary

พาณิชย์ เผยมูลค่าส่งออก พ.ค.62 ติดลบ 5.79% สูงสุดในรอบ 34 เดือน ส่วน 5 เดือนติดลบ 2.7% หลังสงครามการค้า-เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอ-บาทแข็ง พ่นพิษ แนะรัฐบาลใหม่เร่งเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ

Latest


พาณิชย์ เผยมูลค่าส่งออก พ.ค.62 ติดลบ 5.79% สูงสุดในรอบ 34 เดือน ส่วน 5 เดือนติดลบ 2.7% หลังสงครามการค้า-เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอ-บาทแข็ง พ่นพิษ แนะรัฐบาลใหม่เร่งเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2562 น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือน พ.ค.62 การส่งออกมีมูลค่า 21,018 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 5.79% เทียบกับเดือน พ.ค.61 ถือว่าลดลงสูงสุดในรอบ 34 เดือนนับจากเดือน ก.ค.59 ที่ติดลบถึง 6.27% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 20,836.4 ล้านเหรียญฯ ลดลง 0.64% ส่งผลให้มีดุลการค้าเกินดุล 181.5 ล้านเหรียญฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อหักมูลค่าการส่งออกสินค้าทองคำ และน้ำมัน ที่มีความผันผวนมากออกแล้ว จะทำให้เดือน พ.ค. การส่งออกไทยติดลบเพียง 2.6% เท่านั้น

สำหรับในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปี 62 การส่งออกมีมูลค่า 101,561.3 ล้านเหรียญฯ ลดลง 2.70% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 100,830.3 ล้านเหรียญฯ ลดลง 0.99% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 731 ล้านเหรียญฯ แต่เมื่อคิดเป็นเงินบาทขาดดุล 24,676.8 ล้านบาท


"มูลค่าการส่งออกเดือน พ.ค.ลดลงมาจากผลกระทบของสงครามการค้า เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัว ภาวะการเงินโลกที่ตึงตัว รวมถึงความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองในยุโรป การถอนตัวออกจากสภาพยุโรป (อียู) ของสหราชอาณาจักรยังไม่ยุติ รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาก แต่ถือว่า ยังดีที่การส่งออกไทยได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศในภูมิภาค อย่างสิงคโปร์ ติดลบมากถึง 17% นอกจากนี้ ยังขยายตัวได้ดีในหลายตลาดทั้งตลาดเดิม อย่างสหรัฐฯ และอินเดีย และตลาดดาวรุ่งใหม่ เช่น แคนาดา รัสเซียและซีไอเอส โดยสินค้าเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มยังขยายตัวได้ดีมาก"

น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวต่อว่า ในเดือน พ.ค. ผลกระทบของสงครามการค้า ทำให้มูลค่าการส่งออกไทยหายไป 135 ล้านเหรียญฯ หรือ 0.64% ของมูลค่าการส่งออกเดือน พ.ค. เพราะทำให้มูลค่าส่งออกสินค้าไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีนลดลงมากถึง 281 ล้านเหรียญฯ หรือลดลง 4.3% จากการลดลงของแผงวงจร เครื่องจักรและส่วนประกอบ ยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงมูลค่าส่งออกสินค้าที่สหรัฐฯใช้มาตรการเซฟการ์ดขึ้นภาษีนำเข้า ทั้งแผงโซลาร์เซลล์ และเครื่องซักผ้า ลดลงมาก แม้สินค้าบางรายการที่ส่งออกไปสหรัฐฯเพื่อทดแทนสินค้าจีน มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 126.8 ล้านเหรียญฯ 


อย่างไรก็ตาม ต้องการเสนอให้รัฐบาลใหม่ เร่งเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับประเทศใหม่ๆ โดยเฉพาะอียู ไม่เช่นนั้น ไทยจะเสียเปรียบการแข่งขันส่งออกกับประเทศคู่แข่ง รวมถึงผลักดันการส่งออกภาคบริการอย่างจริงจัง และดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไม่เช่นนั้น สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกของไทยจะล้าสมัย และเสียศักยภาพด้านการแข่งขัน

ด้าน น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ กรมได้จัดทำแผน และกิจกรรมผลักดันการส่งออกแบบลงลึกในแต่ละภูมิภาคเสร็จแล้ว ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ทันที โดยจะเริ่มเห็นผลสำเร็จได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.62 เป็นต้นไป หวังว่า น่าจะทำให้มูลค่าส่งออกตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไปได้ไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านเหรียญฯ และจะทำให้มูลค่าส่งออกทั้งปีขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 3% จากปี 61 หรือคิดเป็นมูลค่า 260,184 ล้านเหรียญฯ. 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ