ดีเดย์ 1 ก.ค. ข้าราชการบำนาญ 70 ปีขึ้น ยื่นรับเพิ่มบำเหน็จดำรงชีพ

ภายหลังราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศกฎกระทรวงฉบับใหม่ กำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ถือเป็นข่าวดีสำหรับข้าราชการบำนาญ อายุตั้งแต่ 70 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จะได้เงินบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มขึ้น ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ

จากเดิมกำหนดอัตราให้ขอรับได้ 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 400,000 บาท เป็นให้ขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยหากผู้รับบำนาญเคยขอรับบำเหน็จดำรงชีพ ไปบางส่วนแล้ว ให้ขอรับได้ไม่เกินจำนวนเงินที่ยังไม่ครบตามสิทธิ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผู้รับบำนาญ อายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งเคยขอรับบำเหน็จดำรงชีพในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ ในช่วงอายุ 60 ปี และ 65 ปีไปแล้ว และยังไม่ครบตามสิทธิ ซึ่งรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท สามารถยื่นขอรับบำเหน็จดำรงชีพทั้งแบบไม่มีหนี้บำเหน็จค้ำประกัน และแบบมีหนี้บำเหน็จค้ำประกันที่ส่วนราชการผู้เบิกบำนาญ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้เป็นต้นไป ส่วนผู้รับบำนาญที่มีอายุ 60 ปี และ 65 ปี การยื่นขอรับบำเหน็จดำรงชีพให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิมที่เคยปฏิบัติ

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขอรับและการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ สำหรับผู้รับบำนาญ อายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป พ.ศ.2562 เพื่อให้ส่วนราชการผู้เบิกบำนาญ และผู้รับบำนาญได้ทราบและนำไปปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกัน พร้อมทั้งพัฒนาระบบบำเหน็จบำนาญ ให้สามารถรองรับการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว และพัฒนาระบบ Pensions’ Electronic Filing ให้ผู้รับบำนาญสามารถตรวจสอบคำนวณบำเหน็จดำรงชีพที่จะได้รับ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประมาณการตัดสินใจในเบื้องต้นด้วยตัวเอง และเพื่อให้ผู้รับบำนาญได้รับความสะดวกที่สุด สามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ เช่นเดียวกัน 

นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้หารือร่วมกับธนาคารต่าง ๆ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการดำเนินโครงการกู้เงินกับสถาบันการเงิน สำหรับผู้รับบำนาญที่นำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้เงินเพิ่มเติม แนบท้ายข้อตกลงเดิมที่เคยทำไว้กับธนาคาร.