
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้เข้าร่วมการประชุมชี้แจงการดำเนินการตามรายงานการจัดอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย (Doing Business 2020) ต่อทีมวิจัยของธนาคารโลก ซึ่งกรมได้ชี้แจงความคืบหน้าการเริ่มต้นทำธุรกิจในไทยด้านต่างๆ ทั้งการจดทะเบียนนิติบุคคล การลดขั้นตอนการจดทะเบียนธุรกิจและการผลักดันให้ธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อด้วยการใช้หลักประกันทางธุรกิจ สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ
กรมได้ปรับปรุงระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้ประกอบการได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายและง่ายต่อการใช้งาน ส่วนขั้นตอนการจดทะเบียนนั้น ได้ร่วมมือกับกรมสรรพากรและสำนักงานประกันสังคม ให้การจดทะเบียนธุรกิจ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และการขึ้นทะเบียนนายจ้าง-ลูกจ้างอยู่ในขั้นตอนเดียว สามารถทำทั้ง 3 เรื่องได้พร้อมกัน เมื่อจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่วนการได้รับสินเชื่อกรมร่วมกับกรมเจ้าท่าและกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลหลักประกันทางธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะเปิดใช้งานระบบได้ ต.ค.นี้
“มั่นใจว่าการพัฒนาระบบการให้บริการ การปรับปรุงกฎ ระเบียบ วิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และการนำเทคโนโลยีมาใช้ จะส่งผลให้อันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของไทยดีขึ้นจากปีก่อน ที่ได้รับอันดับรวมที่ 27 และได้รับการจัดอันดับด้านเริ่มต้นธุรกิจที่ 39 โดยปีนี้ธนาคารโลกจะประกาศผลเดือน ต.ค.นี้”.